แพทริค ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้าระดับตำนานของ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้ ประกาศแยกทาง จากการเป็นเฮดโค้ช ทีมชาติอินโดนีเซีย โดยมีผลทันที ตามแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (พีเอสเอสไอ) การตัดสินใจร่วมกันที่จะยุติความร่วมมือก่อนกำหนดนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ความล้มเหลว ในภารกิจหลัก นั่นคือการนำ อินโดนีเซีย ผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ไคลเวิร์ต เข้ามารับตำแหน่งด้วยสัญญา 2 ปี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ความพ่ายแพ้ในรอบคัดเลือกโซนเอเชียล่าสุด ทำให้สมาคมฯ ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมทีมสำหรับรายการถัดไป ติดตาม การซื้อขายนักเตะ ได้ที่ thscore
สารบัญ
Toggleแพทริค ไคลเวิร์ต สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย ยุติสัญญา หลังล้มเหลวรอบคัดเลือก รอบ 4

ไคลเวิร์ต เข้ามาคุมทีมชาติ อินโดนีเซีย แทนที่โค้ชชาวเกาหลีใต้ ชิน แท-ยัง ในเดือนมกราคม โดยแบกรับความคาดหวังอันสูงลิ่วจากแฟนบอลทั่วประเทศ ภารกิจหลัก ที่เขาได้รับมอบหมายคือการพา อินโดนีเซีย ไปสู่รอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ชาติต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างก็ใฝ่ฝัน
ในรอบคัดเลือกโซนเอเชียที่ผ่านมา อินโดนีเซีย สามารถทำผลงานได้ดีพอสมควรในช่วงแรก โดยเป็น ชาติเดียวจากอาเซียน ที่ผ่านเข้ามาลุ้นถึง รอบสี่ ของรอบคัดเลือกโซนเอเชียได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าภายใต้การคุมทีมของ ไคลเวิร์ต ทว่าความหวังทั้งหมดได้พังทลายลงในเดือนตุลาคม เมื่อทีมประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญถึงสองเกมติดต่อกัน ได้แก่:
- ความพ่ายแพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย
- ความพ่ายแพ้ต่อ อิรัก
ความพ่ายแพ้ในสองเกมนี้ทำให้ อินโดนีเซีย จอดป้าย และไม่สามารถผ่านเข้ารอบสี่ต่อไปได้ สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (พีเอสเอสไอ) จึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับโค้ชเพื่อยุติบทบาท “สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย และทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติ อินโดนีเซีย ได้ตกลงกันอย่างเป็นทางการที่จะ ยุติความร่วมมือก่อนกำหนด ด้วยความพร้อมใจทั้งสองฝ่าย” การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าภารกิจหลักได้ล้มเหลวลงแล้ว
ไคลเวิร์ต ผลงานไม่เข้าเป้า แม้ดึงผู้เล่นโอนสัญชาติจำนวนมากเข้ามาเสริมทีม

ไคลเวิร์ต การทำงานของเขามีจุดเด่นอย่างหนึ่งคือการ ดึงผู้เล่นที่เกิดในต่างประเทศ เข้ามาเสริมทัพทีมชาติ อินโดนีเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่มีเชื้อสายอินโดนีเซีย แต่เติบโตและเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งใน เนเธอร์แลนด์ ผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีมชุด 23 คนที่เขาเลือกใช้งานนั้น เป็นผู้เล่นที่เกิดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะยกระดับ คุณภาพ และ ประสบการณ์ ของทีมให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ผลงานของทีมไม่ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้ระบบการโค้ชแบบใหม่และการนำเข้าผู้เล่นโอนสัญชาติจำนวนมาก อินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทีมของ ไคลเวิร์ต สามารถ ชนะได้เพียงสามเกม จากทั้งหมด แปดเกม ที่เขาคุมทีม อัตราการชนะที่ค่อนข้างต่ำนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการสานต่อสัญญาไปจนครบกำหนด
แม้ว่า ไคลเวิร์ต จะช่วยพาทีมผ่านเข้ามาในรอบคัดเลือกที่ลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมชาติ อินโดนีเซีย ในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่การที่ทีมไม่สามารถบรรลุเป้าหมายหลักในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ รวมถึง รูปแบบการเล่น และ ผลงานโดยรวม ที่ยังไม่เป็นที่ประทับใจ ทำให้สมาคมฯ ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพื่อค้นหากุนซือคนใหม่ที่จะมาสานต่อภารกิจในการพัฒนาทีมและพา อินโดนีเซีย ให้ก้าวไปสู่การเป็นทีมชั้นนำในภูมิภาคเอเชียต่อไป
สรุปข่าว
ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้าเนเธอร์แลนด์และ บาร์เซโลน่า แยกทาง กับการเป็นเฮดโค้ช ทีมชาติอินโดนีเซีย โดยมีผลทันที ตามแถลงการณ์ของ พีเอสเอสไอ การตัดสินใจครั้งนี้เป็นผลจากความ ล้มเหลว ในการนำ อินโดนีเซีย ผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย หลังพ่ายแพ้ต่อ ซาอุดีอาระเบีย และ อิรัก ไคลเวิร์ต คุมทีมชนะเพียง 3 จาก 8 เกม แม้จะดึงผู้เล่นโอนสัญชาติจาก เนเธอร์แลนด์ เข้ามาเสริมทีมจำนวนมากก็ตาม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ไคลเวิร์ต แยกทางกับทีมชาติใด?
A: ทีมชาติ อินโดนีเซีย
Q: อะไรคือสาเหตุหลักของการแยกทางกัน?
A: ความล้มเหลวในการนำทีมผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย
Q: ไคลเวิร์ต คุมทีมชาติอินโดนีเซียเป็นระยะเวลาประมาณเท่าไหร่?
A: ประมาณ 10 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม)
Q: ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ ไคลเวิร์ต ดึงเข้ามาเสริมทีมเกิดที่ประเทศใด?
A: ส่วนใหญ่เกิดใน เนเธอร์แลนด์
Q: อินโดนีเซีย ภายใต้การคุมทีมของ ไคลเวิร์ต มีสถิติชนะกี่เกมจากแปดเกม?
A: ชนะ สามเกม จากแปดเกม
Guru Sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ







