Skip to content

Pressing คืออะไร กลยุทธ์สำคัญในโลกฟุตบอลสมัยใหม่

Share
Pressing คืออะไร กลยุทธ์สำคัญในโลกฟุตบอลสมัยใหม่

บทความนี้ Thscore จะอธิบายว่า Pressing คืออะไร รวมถึงประวัติ ความสำคัญ และวิธีการใช้ในการแข่งขัน ฟุตบอลสมัยใหม่เป็นเกมที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ “Pressing” ซึ่งเป็นวิธีการที่หลายทีมใช้ในการกดดันฝ่ายตรงข้ามเพื่อแย่งบอลกลับมาให้ได้อย่างรวดเร็ว

Pressing คืออะไร

Pressing คือ กลยุทธ์ในการเล่นฟุตบอลที่เน้นการกดดันผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเมื่อพวกเขาได้ครองบอล เป้าหมายหลักคือการบังคับให้คู่แข่งเสียบอล หรือทำให้พวกเขาเล่นได้ยากขึ้น จึงต้องเล่นผิดพลาด หรือเร่งทำการจ่ายบอล ซึ่งทำให้ทีมที่ใช้ Pressing สามารถแย่งบอลกลับมาได้รวดเร็ว กลยุทธ์นี้มีความสำคัญในเกมสมัยใหม่ เนื่องจากช่วยให้ทีมควบคุมเกมได้มากขึ้นและลดโอกาสในการบุกของฝ่ายตรงข้าม

ประวัติของ Pressing ในฟุตบอล

ประวัติของ Pressing ในฟุตบอล

กำเนิดและพัฒนาของ Pressing

Pressing เริ่มใช้เป็นกลยุทธ์ในยุคฟุตบอลยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีทีมและโค้ชหลายคนที่เริ่มมองเห็นประโยชน์จากการกดดันสูง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ 1970-1980 ที่ทีม Ajax แห่งเนเธอร์แลนด์ และทีมชาติบราซิลเริ่มนำแนวคิดนี้ไปใช้ การพัฒนากลยุทธ์นี้เริ่มจากความเข้าใจในการบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นผิดพลาด จนถึงการกดดันอย่างเป็นระบบ โดยมีการฝึกซ้อมและพัฒนาทักษะการ Pressing ให้มีประสิทธิภาพ

ทีมที่ใช้ Pressing อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในทีมแรกที่ประสบความสำเร็จกับการใช้ Pressing คือทีม Ajax ในยุค 1970 ภายใต้ Johan Cruyff ที่สร้างสรรค์ฟุตบอลแบบ Total Football ซึ่งทุกผู้เล่นต้องมีความสามารถในหลายบทบาท ทำให้ทีมสามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมา ทีม Barcelona ได้พัฒนากลยุทธ์นี้ไปอีกขั้น โดยการใช้ Tiki-taka ร่วมกับ Pressing เพื่อควบคุมการครองบอลและลดโอกาสในการบุกของฝ่ายตรงข้าม

ประเภทของ Pressing

Gegen pressing

Gegenpressing หรือการกดดันหลังจากเสียบอล เป็นแนวคิดที่ทีมจะพยายามแย่งบอลกลับมาให้ได้ภายในไม่กี่วินาทีหลังจากที่เสียบอล เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสในการตั้งเกม การใช้ Gegenpressing ช่วยให้ทีมสามารถควบคุมการเล่นและสร้างโอกาสในการทำประตูอย่างรวดเร็ว ทีม Liverpool ภายใต้ Jurgen Klopp เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ Gegenpressing โดยทีมจะพยายามกดดันอย่างเข้มข้นเพื่อแย่งบอลกลับมา

High Pressing

High Pressing คือการกดดันฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่แดนหน้า โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายตรงข้ามพยายามเริ่มเกมจากแดนหลัง เป้าหมายคือการลดเวลาที่ฝ่ายตรงข้ามมีในการตัดสินใจและบังคับให้พวกเขาต้องจ่ายบอลอย่างรวดเร็ว วิธีนี้สร้างความกดดันและอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำผิดพลาด นำไปสู่การแย่งบอลและการบุกกลับอย่างมีประสิทธิภาพ

Low Block Pressing

Low Block Pressing เน้นการป้องกันในแดนตัวเอง โดยการบีบพื้นที่และรอโอกาสที่จะตัดบอลจากฝ่ายตรงข้าม เมื่อฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามาใกล้เขตโทษ การใช้ Low Block Pressing ช่วยให้ทีมสามารถรักษาระเบียบและตำแหน่งที่ดีในการป้องกันขณะที่รอโอกาสในการสวนกลับ ทีมที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะมีความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่ง และลดโอกาสในการทำประตูของฝ่ายตรงข้าม

การใช้ Pressing ในการแข่งขัน

Pressing ช่วยสร้างโอกาสในการป้องกันโดยไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีเวลาครองบอลนาน เมื่อสามารถแย่งบอลกลับมาได้เร็ว จะช่วยลดการบุกของคู่แข่งและเพิ่มโอกาสทำเกมสวนกลับเร็ว

การกดดันสูง (High Pressure)

การกดดันสูงสร้างโอกาสในการบีบพื้นที่คู่แข่งตั้งแต่แดนหน้า ทำให้พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะจ่ายบอลหรือสร้างเกมขึ้นมาจากแดนหลังได้อย่างสะดวก เมื่อทีมสามารถรักษาความกดดันได้ การทำประตูก็จะง่ายขึ้นจากการได้บอลในพื้นที่อันตราย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นในทีม

การจัดการกับ Pressing ของทีมตรงข้าม

ทีมที่เจอ Pressing หนักมักจะตอบโต้ด้วยการจ่ายบอลเร็ว หรือเล่นบอลยาว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกดดัน เทคนิคที่ทีมสามารถใช้ในการจัดการกับ Pressing ได้แก่ การเคลื่อนที่เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นเพื่อนร่วมทีม หรือการใช้จังหวะในการเปลี่ยนเกมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การหาจังหวะเพื่อเปิดบอลยาวก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการกดดัน

ตัวอย่างทีมที่ใช้ Pressing อย่างประสบความสำเร็จ

Barcelona และ Tiki-taka Pressing

Barcelona และ Tiki-taka Pressing

ทีม Barcelona ใช้การ Pressing ร่วมกับกลยุทธ์ Tiki-taka ที่เน้นการครองบอล และการจ่ายบอลสั้นอย่างรวดเร็ว โดยการสร้างความเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องในสนาม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การใช้ Pressing ในรูปแบบนี้ทำให้ Barcelona สามารถควบคุมการเล่นได้มากขึ้นและสร้างโอกาสในการทำประตูจากความผิดพลาดของคู่แข่ง

Liverpool กับการนำ Pressing ของ Klopp

Liverpool กับการนำ Pressing ของ Klopp

Jurgen Klopp พาทีม Liverpool ประสบความสำเร็จในการใช้ Pressing ด้วย Gegenpressing โดยทีมจะพยายามกดดันฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง และเมื่อได้บอลกลับมา ผู้เล่นจะทำการโจมตีอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยให้ Liverpool ได้สร้างโอกาสในการทำประตูมากมายและสร้างความกดดันให้กับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีและข้อเสียของ Pressing

ข้อดีของการใช้ Pressing

Pressing ช่วยให้ทีมสามารถควบคุมเกมได้ดีขึ้น เพราะสามารถแย่งบอลกลับมาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการทำประตูจากการเล่นสวนกลับ โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายตรงข้ามเล่นบอลผิดพลาดจากการกดดัน

ข้อเสียและความเสี่ยงของ Pressing

การใช้ Pressing ต้องใช้พละกำลังมาก และหากผู้เล่นเสียตำแหน่งหรือพลาดในจังหวะกดดัน อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสสวนกลับอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การ Pressing ที่เข้มข้นอาจทำให้ผู้เล่นเหนื่อยล้าและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หากไม่จัดการให้ดี

Pressing กับการพัฒนาทีมฟุตบอลสมัยใหม่

บทบาทของผู้เล่นใน Pressing

ผู้เล่นทุกคนในทีมต้องมีส่วนร่วมในการ Pressing ไม่ว่าจะเป็นกองหน้า หรือกองหลัง การกดดันต้องทำเป็นทีม เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งสามารถทำเกมขึ้นมาได้ นอกจากนี้การสื่อสารระหว่างผู้เล่นในทีมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ Pressing มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การฝึกซ้อม Pressing อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกซ้อมการ Pressing จำเป็นต้องฝึกให้ผู้เล่นมีความเข้าใจในเรื่องตำแหน่ง การอ่านเกม และการสื่อสารระหว่างกันในทีม เพื่อให้การกดดันฝ่ายตรงข้ามมีประสิทธิภาพสูงสุด การสร้างสถานการณ์ในการซ้อมที่จำลองสถานการณ์จริงในเกมจะช่วยให้ผู้เล่น

สรุป: Pressing กลยุทธ์ที่ทุกทีมต้องมี

Pressing คือกลยุทธ์ที่เป็นส่วนสำคัญในฟุตบอลสมัยใหม่ ทุกทีมต้องสามารถใช้ Pressing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการประสบความสำเร็จในเกมฟุตบอล เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแย่งบอลแล้ว ยังสร้างความได้เปรียบในการควบคุมเกมและเพิ่มโอกาสในการทำประตู

Guru Sports เว็บไซต์ชั้นนำด้านกีฬาฟุตบอลของประเทศไทย เว็บไซต์นี้มีข้อมูลวิเคราะห์ฟุตบอลอย่างละเอียด ครอบคลุมการแข่งขันฟุตบอลทุกระดับ ทั้งตารางการแข่งขัน ผลการแข่งขัน และรายงานสรุปผลการแข่งขันอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สารบัญ