ชอน ไดช์ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ บรรลุข้อตกลงปากเปล่า

ชอน ไดช์ เฮดโค้ชชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงในการสร้างทีมให้มีความแข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยด้านเกมรับ ล่าสุดได้ ตอบตกลงปากเปล่า รับงานคุมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นการเข้ามาแทนที่ แอนจ์ พอสเตโคกลู ซึ่งถูกสโมสรปลดออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยไดช์ ถือเป็นตัวเลือกที่ผู้บริหารสโมสร “เจ้าป่า” เลือกมาเพื่อรับบทบาท ดับเพลิง ในสถานการณ์ที่มีความ กดดันสูง อย่างยิ่ง เพราะเขาจะกลายเป็นเฮดโค้ชคนที่สามของสโมสรในฤดูกาล 2025-26 นี้แล้ว การเจรจาได้ดำเนินไปอย่างเข้มข้นจนถึงช่วงดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และแม้ว่าจะยังไม่มีการลง เซ็นเอกสาร ใด ๆ ก็ตาม แต่ สกายสปอร์ต สื่อชั้นนำของอังกฤษได้รายงานว่ามีการ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้น ด้วยวาจากันแล้ว โดยคาดการณ์ว่าการยืนยันอย่างเป็นทางการอาจจะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ ติดตาม การซื้อขายนักเตะ ได้ที่ thscore

ชอน ไดช์ ภารกิจดับไฟในวิกฤตเก้าอี้ดนตรี และสไตล์การคุมทีมที่ฟอเรสต์ต้องการ

ไดช์ เข้ามารับงานที่ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก ไดช์ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการ สร้างความคงทน ให้กับเกมรับ การทำให้ทีมเล่นอย่าง ดุดัน และมี วินัยทางแท็กติก การแต่งตั้งเขาในครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนของผู้บริหารสโมสร “เจ้าป่า” ที่ต้องการโค้ชที่สามารถดึงสโมสรออกจากโซนท้ายตารางได้อย่างเร่งด่วน

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เพิ่งตัดสินใจปลด พอสเตโคกลู ออกจากตำแหน่งหลังจบเกมพรีเมียร์ลีกที่แพ้คารัง ซิตี้ กราวด์ ต่อ เชลซี ไปด้วยสกอร์ 0-3 ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผู้บริหารที่ต้องทนเห็นผลงานของทีมดำดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาของ ไดช์ จึงถูกคาดหวังว่าจะนำ ปรัชญาการเล่นที่แตกต่าง ออกไปจาก พอสเตโคกลู ผู้ซึ่งถูกมองว่าเน้นการเล่นที่เปิดเกมรุกมากเกินไปจนทำให้เกมรับมีปัญหา

ประสบการณ์ของ ไดช์ ในการคุมทีมในลีกสูงสุดอังกฤษนั้นถือว่าอยู่ในระดับสูง เขาเคยทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับ เบิร์นลีย์ โดยการพาทีมอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้อย่างยาวนาน แม้จะมีทรัพยากรจำกัด นอกจากนี้เขายังเคยเข้ามารับงานกับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังดิ้นรนหนีตกชั้นและประสบความสำเร็จในการพาทีมรอดพ้นจากภัยพิบัติมาแล้ว ซึ่งความสามารถในการ บริหารจัดการความกดดัน และ เปลี่ยนสถานการณ์วิกฤต ได้อย่างรวดเร็วนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็น ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเจ้าของสโมสร เอวานเจลอส มารินาคิส

การตัดสินใจของ ไดช์ ในการ ตอบตกลงเบื้องต้นด้วยวาจา แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่จะกลับเข้าสู่เส้นทางงานคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า ฟอเรสต์ กำลังต้องการผู้นำที่จะสามารถ กระตุ้นผู้เล่น ที่มีอยู่ให้กลับมามี ความมั่นใจ อีกครั้งและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ ไดช์ ทำได้ดีเสมอมา

ไดช์ ตัวเลือกที่เหนือกว่า มาร์โก ซิลวา และบันทึกความล้มเหลวของ พอสเตโคกลู

ไดช์ กลายเป็นตัวเลือกสุดท้ายหลังจากที่เจ้าของสโมสร เอวานเจลอส มารินาคิส ได้พิจารณา ตัวเลือกโค้ชหลายคน ก่อนหน้านี้ รายชื่อที่ดูเหมือนจะถูกใจ มารินาคิส มากที่สุดคือ มาร์โก ซิลวา เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสของ ฟูแล่ม อย่างไรก็ตาม การเจรจาเพื่อดึงตัว มาร์โก ซิลวา ถือเป็น งานไม่ง่าย ในช่วงที่ฤดูกาล 2025-26 เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

เหตุผลสำคัญคือ โค้ชชาวโปรตุกีส รายนี้มี ค่าฉีกสัญญา ที่สูงถึง 8 ล้านปอนด์ ซึ่งการจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อฉีกสัญญาโค้ชในช่วงต้นฤดูกาลถือเป็น การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลกระทบต่อแผนการเงินของสโมสร การเลือก ไดช์ ซึ่งเป็นโค้ชที่ ว่างงาน อยู่ในขณะนั้น จึงเป็นทางเลือกที่ ฉลาด และ เป็นไปได้จริง ทางการเงินมากกว่า

การที่ ไดช์ เข้ามารับงานทำให้เขากลายเป็น เฮดโค้ชรายที่สาม ของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในฤดูกาลเดียว ซึ่งตอกย้ำถึง วิกฤตความไม่มั่นคง ภายในสโมสรอย่างชัดเจน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กลายเป็น สโมสรแรก ในฤดูกาล 2025-26 ที่ปลดเฮดโค้ช โดยเริ่มจากการปลด นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน จากนั้นจึงแต่งตั้ง แอนจ์ พอสเตโคกลู เข้ามาคุมทัพแทน

น่าเสียดายที่ยุคของ พอสเตโคกลู นั้น สั้นมาก เขาอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 39 วันเท่านั้น ผลงานของเขาคือการคุมทีมในลีกและบอลถ้วยรวม 8 เกม โดยมีสถิติที่น่าใจหายคือ เสมอ 2 และ แพ้ 6 โดยที่ ไม่พบชัยชนะเลยแม้แต่เกมเดียว สถิตินี้เป็นหลักฐานยืนยันถึงความจำเป็นที่ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ต้องรีบเปลี่ยนแปลงทิศทางของทีมก่อนที่จะสายเกินไป การเข้ามาของ ไดช์ พร้อมกับความสามารถในการสร้างทีมจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จึงเป็นความหวังสุดท้ายที่แฟน ๆ “เจ้าป่า” ต่างเฝ้ารอคอย

สรุปข่าว

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ บรรลุข้อตกลง ปากเปล่า กับ ไดช์ ให้เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ แทนที่ แอนจ์ พอสเตโคกลู ที่ถูกปลดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไดช์ เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ โดยการเจรจาตกลงเบื้องต้นในช่วงดึกวันอาทิตย์ ไดช์ จะเป็นโค้ชคนที่สามของ ฟอเรสต์ ในฤดูกาล 2025-26 นี้ พอสเตโคกลู ถูกปลดหลังจากคุมทีมเพียง 39 วัน ด้วยผลงาน 8 เกม ไม่ชนะเลย (เสมอ 2 แพ้ 6) ฟอเรสต์เคยสนใจ มาร์โก ซิลวา แต่ติดปัญหา ค่าฉีกสัญญา 8 ล้านปอนด์ ทำให้เลือก ไดช์ ซึ่งเหมาะสมและเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ไดช์ ตกลงรับงานคุมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แล้วหรือยัง?
A: ตอบตกลงเบื้องต้นด้วยวาจา แล้ว โดยคาดว่าจะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้

Q: ไดช์ จะเป็นโค้ชคนที่เท่าไหร่ของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในฤดูกาล 2025-26?
A: เขาจะเป็น เฮดโค้ชรายที่สาม ในฤดูกาลนี้ ต่อจาก นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ และ แอนจ์ พอสเตโคกลู

Q: แอนจ์ พอสเตโคกลู คุมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เป็นระยะเวลานานเท่าใด?
A: เพียง 39 วัน เท่านั้น

Q: ผลงานของ พอสเตโคกลู ก่อนถูกปลดคืออะไร?
A: คุมทีม 8 เกม (รวมทุกรายการ) มีสถิติ เสมอ 2 แพ้ 6 โดย ไม่ชนะเลย

Q: เหตุใด น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ จึงไม่ได้เลือก มาร์โก ซิลวา?
A: เนื่องจาก มาร์โก ซิลวา มี ค่าฉีกสัญญา กับ ฟูแล่ม ที่สูงถึง 8 ล้านปอนด์ ทำให้การดึงตัวทำได้ยาก

Guru Sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ