Skip to content

นักเตะเยอรมัน ตํานานอินทรีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

Share

Thscore จะพาทุกท่านไปสำรวจ 10 นักเตะเยอรมัน ตํานาน อินทรีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยเยอรมันถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ยิ่งใหญ่ทางด้านฟุตบอล และนักเตะเยอรมันที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋วในบุนเดสลีกาในราคาถูกหรือนักเตะที่มีทรงผมมีเอกลักษณ์ในเวทีระดับโลก ประเทศเยอรมันได้ทำให้วัฒนธรรมฟุตบอลมีความหลากหลายมากขึ้น แต่ใครคือนักเตะเยอรมันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล 

รายชื่อ 10 นักเตะเยอรมัน ตํานานอินทรีเหล็ก

โอลิเวอร์ คาห์น

โอลิเวอร์ คาห์น

โอลิเวอร์ คาห์น ถูกเรียกกันว่า “Der Titan” เนื่องจากการแสดงฟอร์มที่น่าเกรงขามและเหนือชั้นในตำแหน่งผู้รักษาประตู คาห์นถือเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน ในช่วง 600 นัดที่ลงสนามให้กับบาเยิร์น มิวนิค เขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, แชมป์ดีเอฟบี โพคาล 6 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย ในระดับทีมชาติ คาห์นเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ยูโร 1996 และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 โอลิเวอร์ คาห์นยังเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ได้รับรางวัล Golden Ball จากฟุตบอลโลก 2002 อีกด้วย

ฟริตซ์ วอลเตอร์

ฟริตซ์ วอลเตอร์

ฟริตซ์ วอลเตอร์ เป็นกัปตันทีมชาติเยอรมันตะวันตกที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรก ในปี 1954 เขาเป็นกองกลางที่มีความสง่างาม และสร้างความเสียหายให้กับคู่แข่งได้อย่างน่าเกรงขาม ทั้งในการยิงประตูและการแอสซิสต์ วอลเตอร์ทำไป 33 ประตูจาก 61 นัดให้กับทีมชาติ แต่ที่เขาได้รับการยกย่องมากที่สุดคือการเล่นให้กับสโมสรเกิด คาเซอร์สลาวเทิร์น โดยสนามของสโมสรที่สร้างขึ้นในปี 1985 ถูกตั้งชื่อตามเขา วอลเตอร์เป็นที่รู้จักในเรื่องความชื่นชอบการเล่นฟุตบอลในสภาพอากาศที่ฝนตก จนกลายเป็นวลีที่คนเยอรมันใช้กันแพร่หลายว่า “Fritz Walter Wetter” เพื่ออธิบายถึงสภาพสนามที่แย่มาก ซึ่งก็พอดีกับสภาพอากาศในวันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ปี 1954 นั่นแหละ

มิโรสลาฟ โคลเซ่

มิโรสลาฟ โคลเซ่

แม้ว่ามีนักเตะในรายชื่อนี้ที่มีความสามารถดีกว่า มิโรสลาฟ โคลเซ่ ก็ตาม แต่ก็หาผู้ที่สามารถเทียบเคียงกับเขาในด้านประสิทธิภาพระดับนานาชาติได้ยาก โคลเซ่ยังคงเป็นดาวยิงทีมชาติเยอรมันที่ทำประตูได้มากที่สุด ด้วย 71 ประตูจาก 139 นัด รวมถึงเป็นดาวยิงที่ทำประตูได้มากที่สุดในศึกฟุตบอลโลก ด้วย 16 ประตู แม้ว่าสถิติในระดับสโมสรของโคลเซ่จะไม่โดดเด่นนัก แต่ผลงานระดับทีมชาติของเขาทำให้เขากลายเป็นตำนานของวงการฟุตบอลเยอรมัน

มานูเอล นอยเออร์

มานูเอล นอยเออร์

มานูเอล นอยเออร์ ถือเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้รักษาประตูอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะไม่ใช่คนแรกที่สร้างบทบาทของ sweeper-keeper แต่เขาก็เป็นผู้ที่ทำให้บทบาทนี้สมบูรณ์แบบที่สุด ความสามารถในการเล่นลูกด้วยเท้าของนอยเออร์นั้นยอดเยี่ยมมาก จนกระทั่งเป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องตัดสินใจไม่ให้เขาลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง นอยเออร์เป็นหลักสำคัญในการช่วยให้บาเยิร์น มิวนิค คว้าทริปเปิลแชมป์ในปี 2013 และ 2020 รวมถึงแชมป์บุนเดสลีกาอีกมากมาย การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยกระดับความยิ่งใหญ่ของเขาไปอีกขั้น

กุนเทอร์ เนตเซอร์

กุนเทอร์ เนตเซอร์

นักเตะที่ได้รับฉายาว่า “Karajan” เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับผู้บัญชาการวงออร์เคสตราชื่อดังชาวออสเตรีย เนตเซอร์เป็นนักเตะที่มีความฉลาด ความสมดุล และทักษะทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหลายคนมองว่าเขาเป็นนักผ่านลูกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมัน กับทีมชาติ เนตเซอร์เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ยูโร 1972 และฟุตบอลโลก 1974 และยังเคยได้รับอันดับ 3 ในการประกาศรางวัลบัลลงดอร์หลังจากคว้าแชมป์ยูโร 1972 ด้วย นอกจากความสามารถในสนามแล้ว ลุคส์และไลฟ์สไตล์ของเนตเซอร์ที่เป็นแบบเพลย์บอยก็ทำให้เขาได้รับการยกย่องจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นของเขาคือ ในนัดชิงดีเอฟบี โพคาล ปี 1973 เมื่อเขาถูกจับยืนสำรอง แต่กลับเปลื้องชุดอุ่นเครื่องและบอกกับกุนซือว่า “ฉันจะลงเล่นตอนต่อเวลาพิเศษ” ก่อนที่จะทำประตูชัยให้กับทีมและย้ายไปเล่นให้เรอัล มาดริดในที่สุด

อูเว เซเลอร์

อูเว เซเลอร์

ดาวเด่นของฟุตบอลเยอรมันในช่วงทศวรรษ 1960 เซเลอร์ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจดจำที่สุดด้วยรูปปั้นขนาดใหญ่ของเท้าขวาของเขาที่ตั้งอยู่ภายนอกสนามของ Volksparkstadion ของ Hamburger SV เขาทำไป 490 ประตูจาก 580 นัดให้กับสโมสรเกิด และเป็นที่รู้จักในเรื่องความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ ความสามารถในการเล่นบอลด้วยศรีษะ และการยิงจังหวะอากาศ เซเลอร์ช่วยให้ Hamburger SV คว้าแชมป์ลีกเยอรมันในปี 1960 และแชมป์ดีเอฟบี โพคาล อีก 3 ปีต่อมา ด้วยความสามารถในการทำประตูที่น่าทึ่ง เขายังพาทีมชาติเยอรมันตะวันตกเข้าใกล้แชมป์ฟุตบอลโลก 1966 ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกพาออกจากสนาม ภาพนั้นถือเป็นหนึ่งในภาพที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล

ฟิลิปป์ ลาห์ม

ฟิลิปป์ ลาห์ม

เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมัน แม้ว่าจะมีรูปร่างไม่ค่อยแข็งแกร่ง แต่เขาก็สามารถชดเชยด้วยความเฉลียวฉลาดในเกมฟุตบอลอย่างน่าทึ่ง ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ลาห์มสามารถปรับตัวจากแบ็คขวาไปเป็นกองกลางควบคุมเกมได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งทั้งสองนั้นเป็นเวลาหลายฤดูกาล

ลาห์มคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ-โพคาล 6 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัยกับ บาเยิร์น มิวนิค ทว่าความภาคภูมิใจสูงสุดของเขาคือการยกถ้วยฟุตบอลโลกในฐานะกัปตันทีมชาติเยอรมนี ในปี 2014 ซึ่งนับเป็นทีมชาติเยอรมนีทีย่ิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ลอธาร์ มัทเธียอุส

ลอธาร์ มัทเธียอุส

ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ทางคณิตศาสตร์ที่มัทเธียสจะได้ลงเล่นในศึกยูโร 1980 และยูโร 2000 แต่เมื่อตรวจสอบอีกครั้ง เขาก็ได้ทำสิ่งนั้นจริง ๆ เขาคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกนั้น และเป็นกัปตันทีมที่พาเยอรมนีตะวันตกคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี ในช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมนั้น เขายังหาเวลาพลาดการลงเล่นในศึกยูโร 1996 ได้อีกด้วย

มิดฟิลด์ผู้เป็นตัวหลักและผู้นำที่ไม่ย่อท้อนี้ มีสถิติการลงเล่นให้ทีมชาติเยอรมนีมากที่สุด (150 นัด) และลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 (25 นัด) ดิเอโก มาราโดนา เคยเรียกเขาว่า “คู่แข่งที่เข้มแข็งที่สุด” และอดีตโค้ชของบาเยิร์น มิวนิค จิโอวานนี ตราปตัตอนี ให้การจัดอันดับเขาเหนือกว่า มิเชล ปลาตินี และมาราโดนา “ที่บาเยิร์น มีลำดับขั้น และลอธาร์ก็คือหัวหน้าสุนัขใหญ่” ดังที่ จิโอวานเน เอลเบอร์ อดีตกองหน้าบาเยิร์น เคยกล่าวไว้

เกิร์ด มูลเลอร์

เกิร์ด มูลเลอร์

ถือเป็นหนึ่งในตำนานของวงการลูกหนังในประเทศ ถึงแม้ว่าในช่วงวัยเด็กเขาจะถูกเยาะเย้ยว่ามีร่างกายสั้นและอ้วน แต่การฝึกงานเป็นช่างทอผ้าในบาวาเรียกลับช่วยให้มูลเลอร์มีร่างกายแข็งแรงและทรวดทรงที่ทรงพลัง ภายหลังนำไปสู่การเป็นตัวประจำในแดนหน้าของทีมบาเยิร์น มิวนิค

ด้วยฉายาที่ได้รับจากแฟนบอลชาวเยอรมันว่า “Der Bomber” หรือ “นักระเบิด” อันเนื่องมาจากความสามารถในการทำลายแนวรับของคู่แข่ง มูลเลอร์ยิงประตูให้บาเยิร์น มิวนิคไปทั้งสิ้น 365 ประตูจาก 427 นัด คิดเป็นอัตราการยิงประตูเฉลี่ย 0.85 ประตูต่อเกม นอกจากนี้เขายังเป็นดาวซัลโวทีมชาติเยอรมันอันดับสองด้วยการยิง 68 ประตูจาก 62 นัด ต่ำกว่าสถิติของมิรอสลาฟ โคลเซ่เพียง 3 ประตู แม้ว่าเขาจะลงสนามน้อยกว่าถึง 75 นัด

ฟรานซ์ เบคเกนเบาเออร์

ฟรานซ์ เบคเกนเบาเออร์

ในยุค 60 มีการใช้ตำแหน่ง “สวีปเปอร์” กันอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครเล่นบทบาทนี้ได้ดีเท่า เบคเกนเบาเออร์ เขาไม่เพียงแต่ควบคุมเกมจากแดนหลังด้วยการผ่านบอลอันยอดเยี่ยม แต่ยังพุ่งขึ้นไปร่วมบุกอย่างต่อเนื่อง กระจายบอลผ่านคู่แข่งไปเรื่อย ๆ ตำแหน่ง “ลิเบโร่” จึงถือกำเนิดขึ้น และ เบคเกนเบาเออร์ ก็เป็นผู้บุกเบิกตำแหน่งนี้

เบคเกนเบาเออร์ คว้าแชมป์ลีกได้ 4 สมัย, แชมป์ เดเอฟเบ คัพ 4 สมัย, แชมป์ ยูโรเปียน คัพ 3 สมัย และ ได้รับบัลลงดอร์ 2 สมัย กับ บาเยิร์น มิวนิค และยังเพิ่มอีก 1 สมัยกับ ฮัมบูร์ก ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถของเขาที่จะพลิกแพลงทีมใดให้กลายเป็นทีมแชมป์ได้

ในทีมชาติ เบคเกนเบาเออร์ ในฐานะกองหลังและกัปตัน คือกำลังสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ ยูโร 72 และ ฟุตบอลโลก 2 ปีถัดมา ไม่มีผู้เล่นคนใดที่จะมีความเป็นผู้นำ สงบนิ่ง ครองบอลอย่างมีเสน่ห์ และน่ากลัวเท่า เบคเกนเบาเออร์ และไม่มีนักเตะชาวเยอรมันคนใดได้รับการยกย่องและเคารพนับถือมากเท่าเขา เขาเป็นและจะยังคงเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเยอรมัน

สรุป

จาก นักเตะเยอรมัน ตํานาน อินทรีเหล้กที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก จะเป็นได้ว่า เยอรมนีนั้น ถือว่าเป็น ประเทศที่พัฒนาด้านวงการฟุตบอลมาตั้งแต่อดีต ด้วยนักเตะที่มีศักยภาพมากมาย ทำให้พวกเขาอยู่อันดับตอนๆของโลก และได้รับรางวัลมากมายในวงการฟุตบอลอีกทั้งยังมีลีกที่ คอยพัมนานักเตะรุ่นใหม่เขามาอยุ่เสมอ

Guru Sports ขอแนะนำแอปพลิเคชันที่จะทำให้การรับชมฟุตบอลระดับโลกของคุณเป็นประสบการณ์ที่สะดวกสบายและครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นลีกชั้นนำอย่างพรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, เซเรียอา หรือแม้แต่ลีกภายในประเทศไทย คุณสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยคุณภาพภาพและเสียงที่คมชัด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สารบัญ