
หลังห่างหายจากสนามไปนานกว่า 8 เดือน ในที่สุด เอแดร์ มิลิเตา คืนสนาม ลงเล่นอย่างเป็นทางการอีกครั้งให้กับ เรอัล มาดริด ในเกมที่พบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช) ศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ที่สนาม เม็ต ไลฟ์ สเตเดี้ยม แม้ผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-4 ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของราชันชุดขาวในรายการนี้ แต่นี่คือก้าวแรกที่มีค่าของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติบราซิลรายนี้
มิลิเตาได้รับบาดเจ็บ เอ็นไขว้หน้าเข่าขวาขาด (ACL) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 และต้องเข้ารับการผ่าตัดพร้อมฟื้นฟูร่างกายนานหลายเดือน ก่อนจะได้กลับมาลงสนามในนาทีที่ 64 ของเกมดังกล่าว โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่าน DAZN Football ว่าการกลับมาครั้งนี้คือ “ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม” แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ
สารบัญ
Toggleมิลิเตา เปิดใจหลังคืนสนาม: “ทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ”
หลังเกม มิลิเตา กล่าวถึงความรู้สึกส่วนตัวหลังลงเล่นอีกครั้งในเกมแข่งขันอย่างเป็นทางการว่า
“วันนี้ผลการแข่งขันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเดินหน้าทำงานหนักกันต่อไป”
“ผมรู้สึกดีหลังลงสนามไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง ร่างกายตอบสนองได้ดี ไม่มีอะไรต้องกังวล”
“หวังว่าจะเรียกความฟิตกลับมาให้ทันช่วงปรีซีซั่น และพร้อมเต็มที่กับฤดูกาลใหม่”
นี่คือสัญญาณเชิงบวกจากนักเตะที่แฟนบอลราชันชุดขาวต่างเฝ้ารอให้กลับมาช่วยทีมในแนวรับ โดยเฉพาะหลังจากที่เรอัล มาดริดต้องเจอกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักในฤดูกาลก่อนอย่างต่อเนื่อง
ชื่นชมคู่แข่ง – PSG สมควรเข้าชิงฯ
แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างขาดลอย แต่มิลิเตาไม่ลืมที่จะกล่าวชมคู่แข่งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ว่า
“เปแอสเชเป็นทีมพลังหนุ่ม กระหายชัยชนะ และมีวินัยในการเล่นเกมอย่างยอดเยี่ยม”
“พวกเขาแสดงให้เห็นถึงแนวทางการเล่นเป็นทีมอย่างแท้จริง และสมควรเข้าชิงอย่างยิ่ง”
“เราก็ได้เห็นด้วยตาว่าคู่แข่งแข็งแกร่งแค่ไหน ต้องขอแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย”
การยอมรับความพ่ายแพ้และให้เกียรติคู่แข่งเช่นนี้สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของมิลิเตา และยังแสดงถึงมุมมองที่ดีของนักเตะซึ่งพร้อมพัฒนาและกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
มาดริด เสีย 4 ประตูในเกมเดียวครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คลับ เวิลด์ คัพ
เกมนี้นับเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รวมทั้งในรูปแบบเก่าและใหม่ จากสถิติ 21 เกมไร้พ่าย ซึ่งถือเป็นผลงานที่โดดเด่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจคือ การเสียถึง 4 ประตูในเกมเดียว ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดที่มาดริดเคยเสียในรายการนี้ โดยเฉพาะการที่เกมรับของทีมไม่มีทั้ง ดานี่ การ์บาฆาล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และมิลิเตาเพิ่งกลับมา จึงมีช่องโหว่ให้ทีมจากฝรั่งเศสโจมตีได้หลายจังหวะ

ปรีซีซั่น 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของมิลิเตา
ด้วยเป้าหมายใหญ่ในฤดูกาลหน้า ทั้ง ลาลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และการแข่งขันในระดับสโมสรโลก การได้ เอแดร์ มิลิเตา คืนสนาม ถือเป็นข่าวดีสำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่กำลังมองหาความสมดุลในแนวรับ
ช่วง ปรีซีซั่น 2025 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นช่วงเวลาทองสำหรับมิลิเตาในการเร่งเรียกความฟิต และปรับตัวให้กลับเข้าสู่ระบบทีมอย่างสมบูรณ์ พร้อมเป็นคู่หูในแนวรับให้กับ รูดิเกอร์ หรือ ดาวรุ่งอย่าง ปาอุส
บทสรุป: ก้าวแรกของการกลับมาที่สำคัญ
แม้เรอัล มาดริดจะพลาดโอกาสเข้าชิงคลับ เวิลด์ คัพ แต่การได้เห็น เอแดร์ มิลิเตา คืนสนาม อีกครั้งในรอบ 8 เดือน คือหนึ่งในข่าวดีที่สุดของทีมและแฟนบอลในช่วงเวลานี้ ด้วยอายุเพียง 26 ปี และประสบการณ์ระดับสูง เขายังสามารถกลับมายืนเป็นเสาหลักในแนวรับของทีมได้อีกหลายปี
หากไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเพิ่มเติม มิลิเตาจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการล่าความสำเร็จของราชันชุดขาวแน่นอนในฤดูกาลหน้า
Guru sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ