เฮนริค มคิทาร์ยาน ยอมรับเสียดายหลังโดนริบประตูชัยในเกมบาร์เซโลน่า-อินเตอร์ มิลาน

เฮนริค มคิทาร์ยาน ดาวเตะประสบการณ์สูงของ อินเตอร์ มิลาน ยอมรับว่าเขาคงจะต้องคิดถึงประตูที่ถูกริบไปตลอดชีวิต หลังจากที่ทำประตูตีเสมอในเกม ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ บาร์เซโลน่า แต่สุดท้ายถูกตัดสินว่าเขาล้ำหน้าเพียงเล็กน้อย จากการตรวจสอบโดย วีเออาร์ ซึ่งทำให้ทีมอินเตอร์ มิลานต้องผิดหวังจากโอกาสที่อาจจะทำให้พวกเขาคว้า สามแต้มสำคัญ กลับบ้านไปได้ ติดตาม การย้ายสโมสร ได้ที่ บ้านบอล

ในช่วงแรกของการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนำก่อน 2-0 ในช่วง 20 นาทีแรกของการแข่งขัน แม้ว่าจะโดน บาร์เซโลน่า ตามตีเสมอ 2-2 แต่ทีมของ ซิมโอนี่ อินซากี้ ก็สามารถขึ้นนำได้อีกครั้งในช่วงที่เหลือของเกม หลังจากนั้น บาร์เซโลน่า ก็มาไล่ตีเสมอเป็น 3-3 และทำให้เกมเข้าสู่ช่วงเวลา ที่ตึงเครียด ก่อนที่จังหวะสำคัญจะเกิดขึ้นเมื่อ เดนเซล ดุมฟรีส์ เปิดบอลไปให้ มคิทาร์ยาน ซึ่งตามมาชาร์จจ่อๆ เข้าไป แต่ทว่า วีเออาร์ ตัดสินว่าประตูนั้นไม่ได้ เนื่องจากมคิทาร์ยานล้ำหน้าเพียงแค่ปลายสตั๊ดเท่านั้น

จังหวะสำคัญของเกมที่ยากจะลืม

หลังจบเกม มคิทาร์ยาน กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “มันน่าเสียดายจริงๆ โชคไม่ดีเลย เพราะมันเหลื่อมแค่ 2-3 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ คุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ และผมคงคิดถึงมันไปตลอดชีวิต” ดาวเตะวัย 34 ปีจากอาร์เมเนียกล่าวถึงความเสียใจจากการที่เขาไม่ได้ประตูสำคัญในเกมนี้ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นนั้นไปอย่างสิ้นเชิง

ในความรู้สึกของมคิทาร์ยาน การที่ทีม อินเตอร์ มิลาน ไม่สามารถรักษาสกอร์ 3-2 ไว้ได้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความผิดหวัง เพราะทีมมีโอกาสในการคว้าชัยชนะในเกมสำคัญนี้ แต่การเสียประตูง่ายๆ จากการถูกกดดันของ บาร์เซโลน่า นั้นทำให้ทีมไม่สามารถรักษาความได้เปรียบของตัวเองได้

บทเรียนจากความพ่ายแพ้ในเกมนี้

แม้ อินเตอร์ มิลาน จะมีโอกาสในการเก็บสามแต้ม แต่ก็ต้องยอมรับว่า บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่มีการเล่นที่ดุดันและคุมเกมได้ดีในช่วงที่พวกเขาตามตีเสมอ และสามารถสร้างความกดดันให้กับ อินเตอร์ อย่างหนักในช่วงเวลาต่อมา แม้ว่าจะตกเป็นรอง 2-0 ในช่วงแรกของเกม แต่ บาร์เซโลน่า ก็สามารถกลับมาเสมอและยังมีโอกาสที่จะพลิกแซงอีกด้วย

การที่ อินเตอร์ มิลาน ขึ้นนำไปได้ก่อนถึง 2-0 ในช่วงต้นเกมถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การเสียบอลง่ายๆ และความผิดพลาดในการป้องกันทำให้ บาร์เซโลน่า กลับมาทำเกมได้ในภายหลัง โดยเฉพาะในช่วงหลังที่อินเตอร์ไม่สามารถรักษาความได้เปรียบของตัวเองไว้ได้

ในท้ายที่สุด เกมนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความตั้งใจและความสมดุลในเกมฟุตบอล การที่ทีมขึ้นนำแล้วไม่สามารถควบคุมจังหวะเกมได้หรือเสียประตูง่ายๆ จะทำให้โอกาสในการคว้าชัยชนะลดลงอย่างมาก

การวิเคราะห์บทบาทของวีเออาร์ในฟุตบอลยุคใหม่

จากเหตุการณ์ที่ มคิทาร์ยาน ถูกตัดสินให้ล้ำหน้าแม้ว่าจะเป็นเพียงการเหลื่อมแค่เล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของ วีเออาร์ ในการตัดสินผลการแข่งขันในฟุตบอลยุคใหม่ ในอดีต การตัดสินแบบนี้อาจจะไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงขึ้น การตัดสินเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ตัดสินมีความมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นและแฟนบอลรู้สึกผิดหวังหรือไม่พอใจ

แม้จะมีข้อดีในการลดการตัดสินผิดพลาดจากการมองไม่เห็นจากผู้ตัดสิน แต่วีเออาร์ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดหวังที่เกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ได้ โดยเฉพาะเมื่อความละเอียดของการวัดระยะห่างของ ล้ำหน้า นั้นมีการวัดจากส่วนเล็กๆ ที่สามารถเกิดความผิดพลาดได้ง่ายเช่นนี้

ประสบการณ์ที่ยากจะลืม

สำหรับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ถึงแม้จะไม่ได้ประตูที่สำคัญในเกมนี้ แต่นี่คือประสบการณ์ที่เขาจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต เขายังยอมรับว่าผลการแข่งขันในเกมนี้ทำให้เขารู้สึกเสียดาย แต่เขาจะต้องก้าวต่อไปและมองหาผลการแข่งขันที่ดีกว่าในอนาคต

“เราทำทุ่มเต็มที่แล้ว แม้จะเสียประตูไปแต่ก็พยายามที่จะกลับมา แต่สุดท้ายมันก็ไม่พอ” มคิทาร์ยานกล่าวเสริม “ผมจะไม่ท้อถอย มันคือฟุตบอลและเราต้องเดินหน้าต่อไป”

บทสรุป:
แม้จะเสียดายแต่ อินเตอร์ มิลาน ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ในเกมนี้ และหวังว่าจะสามารถนำบทเรียนนี้ไปปรับปรุงเกมในอนาคต โดยเฉพาะใน ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังคงมีการแข่งขันที่ท้าทายรออยู่

Guru sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมยร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ