พรีเมียร์ลีก, สถิติข้อมูลโปรแกรมบอล，โปรแกรมบอล，ตารางคะแนน

ประวัติ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เมื่ออดีต ฟุตบอลอังกฤษมีการเรียกว่า "Football League First Division" ( ฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่ง ) และถูกจัดโดย "English Football League" ( องค์กรฟุตบอลลีก ) เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1888 ( พ.ศ. 2431 ) มีการแข่งขันแบบลีก คือ ทีมทุกทีมพบกันและ เป็นการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกในโลก

และหลังจากก้าวเข้าสู่ปี ค.ศ. 1991 ฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่งก็ถึงจุดสิ้นสุด เมื่อนาย Rupert Murdoch (รูเพิร์ธ เมอร์ด็อก), นักธุรกิจสื่อสารสถานีโทรทัศน์สกาย (BSkyB), ผลักดันให้สโมสรฟุตบอลที่จะลงแข่งขันในดิวิชั่นหนึ่ง ประจำฤดูกาล 1992-93 ถอนตัวออกมาและไปจัดตั้งตัวเองใหม่เป็น พรีเมียร์ลีก

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ลีกฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษที่มีอายุ 103 ปี จบลง และได้เริ่มต้นพร้อมระบบดิวิชั่นใหม่ ประกอบด้วย 4 ดิวิชั่น โดยมีพรีเมียร์ลีกที่เป็นดิวิชั่นสูงสุด และดิวิชั่นถัดไปคือ "แชมเปี้ยนชิพ” ดิวิชั่น 3 กลายเป็น "ลีกวัน" และดิวิชั่น 4 กลายเป็น "ลีกทู" จากการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมอีกอย่างหนึ่งคือ เงินสนับสนุนในพรีเมียร์ลีกจะอยู่ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น จากเดิมที่มีการแบ่งสัดส่วนให้ดิวิชั่น 2 3 และ 4 ด้วย

จากนั้นมาถึงปัจจุบัน พรีเมียร์ลีก กลายเป็นลีกฟุตบอลภายในประเทศที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในโลกนี้ เนื่องจากรายได้ที่มาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น การขายตั๋วเข้าชมในสนาม, การขายของที่ระลึก, และที่สำคัญที่สุดคือส่วนแบ่งจากลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดและบันทึกการแข่งขันจากทั่วโลก จะแบ่งแค่ 20 สโมสรนี้ ใน ลีกเดียว ทำให้มีกำลังซื้อขายต่างๆ สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับยุคก่อนหน้านี้

พรีเมียร์ลีก (Premier League) หรือชื่อเก่าที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นหู เอฟเอ พรีเมียร์ลีก เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกในระดับสูงสุดของอังกฤษ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 หรือ (ค.ศ. 1992) ภายใต้การบริหารจัดการของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือเป็นที่รู้จัก นามของผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการว่าบาร์เคลส์ พรีเมียร์ชิพ โดยประกอบด้วยทีมชั้นนำ ทั้งหมด 20 ทีม ปัจจุบัน มีเพียง 5 ทีมเท่านั้นที่เคยคว้าแชมป์ในการแข่งขันนี้ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, เชลซี, แบล็กเบิร์นโรเวอส์ และแมนเชสเตอร์ซิตี

ยุคมืด พรีเมียร์ลีก สมัยยังเป็น ดิวิชั่น 1

ในช่วงท้ายของยุค "ดิวิชั่น 1" เมื่อลีกสูงสุดยังไม่ได้กลายเป็นพรีเมียร์ลีก, วงการฟุตบอลอาชีพของอังกฤษกำลังพบกับปัญหามากมาย

หนึ่งในนั้นคือ ฮูลิแกน ("Hooligan") เป็นกลุ่มแฟนบอลหัวรุนแรง ที่ทำลายภาพลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษ ฮูลิแกน ก่อความวุ่นวายอย่างมากทำให้แฟนฟุตบอลไม่กล้าไปที่สนามเพื่อชมการแข่งขัน และบางครั้งรุนแรงจนการแข่งขันต้องยุติกลางคัน

สถานการณ์นี้ส่งผลให้รายได้ของสโมสรที่มาจากค่าผ่านประตู และเป็นแหล่งรายได้หลัก ลดลงอย่างมาก ทุกสโมสรฟุตบอลมีกำไรสุทธิรวมเพียงประมาน 2.5 ล้านปอนด์ และเมื่อถึงช่วง 1989-90 ทุกสโมสรกลายเป็นขาดทุน 11 ล้านปอนด์ ทำให้นักลงทุนไม่กล้าลงทุนกับวงการฟุตบอลในช่วงนั้นอีกต่อไปจนทำให้ทีมหลายสโมสรวิกฤตถึงขั้นล้มละลาย

ส่วนแบ่งรายได้จากการถ่ายทอดทีวียุคนั้นยังไม่สูงมากนัก เพราะมีความจำกัดในการถ่ายทอดในประเทศอังกฤษเท่านั้น และเมื่อจำนวนแฟนบอลในสนามลดลง บรรยากาศก็ไม่มีความเร้าใจเหมือนเดิม

เหตการณ์รุนแรงอย่างเกิดขึ้นต่อเนื่อง ในวันที่ 15 เมษายน 1989 ที่สนามฟุตบอลฮิลส์เบอโรของสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์เวนส์เดย์ มีผู้คนถูกเหยียบจนเสียชีวิตมากกว่า 96 คน

นอกจากนี้ยังเกิด เหตุโศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 39 คน ทำให้ยูฟ่าตัดสินใจห้ามสโมสรฟุตบอลจากอังกฤษไม่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันชิงถ้วยสโมสรในยุโรปเป็นเวลา 5 ปี

ทำไม พรีเมียร์ลีก ถึงโด่งดังทั่วโลก

อังกฤษคือต้นแบบมาตฐานการแข่งขัน ฟุตบอลลีก ที่ทั่วโลกยอมรับ และมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ในด้านฟุตบอล และโดยมาตฐานการตัดสิน การแข่งขัน รวมถึงกฎต่างๆที่ออกแบบมาทำให้ทุกทีมที่ทำการแข่งขันได้รับความยุติธรรมและเป็นกลางมากที่สุดและด้วยการเงินที่หมุนเวียนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษ เติบโดอย่างก้าวกระโดด

ระบบ ลีกอังกฤษ ที่ทำให้ พรีเมียร์ลีกครองใจทั่วโลก

ในระบบฟุตบอลของอังกฤษ, มีระดับการแข่งขันทั้งหมด 4 ดิวิชั่น ที่ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก, แชมเปี้ยนชิพ, ลีก 1, และลีก 2 โดยทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นลีกใหญ่และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอังกฤษ และตั้งแต่ดิวิชั่น 5 ลงไป, จะถูกเรียกว่า "นอกลีก" และยังมีอีกหลายลีกที่พยายามไต่ขึ้นมาเพื่อไปเล่น 4 ลีกข้างบนเพื่อพัฒนา และเติบโต โดยลำดับความสำคัญขึ้นอยู่ดังนี้

• พรีเมียร์ลีก 20 ทีม - ตกชั้น 3 ทีม
• อีเอฟแอลแชมเปียนชิป 24 ทีม - เลื่อนชั้น 3 ทีม, ตกชั้น 3 ทีม
• อีเอฟแอลลีกวัน 24 ทีม - เลื่อนชั้น 3 ทีม, ตกชั้น 4 ทีม
• อีเอฟแอลลีกทู 24 ทีม - เลื่อนชั้น 4 ทีม, ตกชั้น 2 ทีม

นอกจากนี้ยังมีลีกย่อยอีกมากมายในประเทศอังกฤษ และมีมากกว่าพันลีกแต่ที่นำมานั้นจะเป็นลีกที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมีแฟนบอลมากมายทั่วโลก

อีกทั้ง สีสันที่ทำให้ลีกอังกฤษเป็นที่นิยมคือ มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์ที่มาร่วมค้าแข้งที่อังกฤษ ปัจจุบันในพรีเมียร์ลีก มีข้อกำหนดว่าในแต่ละปีนั้นสโมสรจะมีผู้เล่นได้ไม่เกิน 25 คน. และในนี้ จะต้องมี "ผู้เล่นท้องถิ่น" อย่างน้อย 8 คน, และ 17 คนที่เหลือสามารถเป็นผู้เล่นจากต่างชาติได้

โดยคำว่า "ผู้เล่นท้องถิ่น" ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสัญชาติอังกฤษ แต่ต้องเคยขึ้นทะเบียนเป็นนักเตะอาชีพในสโมสรฟุตบอลอังกฤษอย่างน้อย 3 ปี และต้องเป็นนักเตะเยาวชนของทีมอาชีพในอังกฤษมา 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 21 ขึ้นไป

ดังนั้น พรีเมียร์ลีก ถือเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ลูกหนังอังกฤษมีสเน่ห์ ที่สามารถดึงดูดแฟนฟุตบอลทั่วโลกได้ มีการสนับสนุนอยู่ตลอดเวลาและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด สิ่งตื่นเต้นเกิดขึ้นตลอดที่มีการแข่งขัน