เจมส์ แม็คคาที กองกลางตัวรุกพรสวรรค์สูงที่เคยได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดในอาชีพค้าแข้งนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัวมหาศาลเฉียด 30 ล้านปอนด์ ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันกลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากเขาไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ตำแหน่งตัวจริงได้อย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้ส่งผลให้สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี เริ่มขยับตัวและแสดงความสนใจที่จะดึงตัวมิดฟิลด์วัย 23 ปีรายนี้ไปร่วมทัพ โดยหวังจะใช้โอกาสที่นักเตะกำลังตกอยู่ในสภาวะผิดหวังกับโอกาสลงสนามที่จำกัด เพื่อโน้มน้าวให้เขาย้ายไปหาความท้าทายใหม่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเชลซีมองว่าสไตล์การเล่นของเขาสามารถเติมเต็มมิติเกมรุกในแดนกลางให้กับทีมได้เป็นอย่างดีในระยะยาว ติดตาม ผลบอลได้ง่ายๆ ได้ที่ ผลบอลสด thscore
สารบัญ
Toggleเจมส์ แม็คคาที กับความล้มเหลวในการหาโอกาสลงสนามที่สม่ำเสมอ ณ ซิตี้ กราวด์

ย้อนกลับไปในช่วงที่เขาย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหตุผลหลักคือความต้องการลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป้าหมายนั้นดูเหมือนจะยังห่างไกลความจริงเมื่อดูจากสถิติในฤดูกาลปัจจุบัน
สถิติการลงเล่นที่น่าใจหายในพรีเมียร์ลีก
นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2025-26 เขาได้รับโอกาสลงสัมผัสเกมในฐานะตัวจริงเพียงแค่ “นัดเดียว” เท่านั้น ส่วนอีก 5 เกมที่เหลือเป็นการถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรองในช่วงท้ายเกม สถิตินี้สะท้อนให้เห็นว่าความมั่นใจที่สโมสรมีต่อเขานั้นยังไม่มากพอที่จะมอบบทบาทจอมทัพให้กับเขาได้อย่างเต็มตัว
ความผิดหวังครั้งใหญ่ในเกมพบต้นสังกัดเก่า
ในแมตช์ล่าสุดที่ฟอเรสต์พ่ายแพ้คาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 เขาต้องนั่งเจ่าอยู่บนม้านั่งสำรองตลอด 90 นาทีโดยไม่ถูกส่งลงสนามเลยแม้แต่วินาทีเดียว การไม่ได้พิสูจน์ตัวเองต่อหน้าทีมเก่าสร้างความเจ็บปวดและผิดหวังให้กับนักเตะเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นเชื้อไฟที่ทำให้ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้ง
แม็คคาที กับบทเรียนจากกุนซือ 3 สไตล์ในรั้งน็อตติงแฮม ฟอเรสต์

ตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีม “เจ้าป่า” เขาต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งเฮดโค้ชบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละคนก็มีแนวทางการทำทีมที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง
ยุคการเปลี่ยนผ่านจากนูโน่สู่ไดช์
เขาต้องปรับตัวเข้ากับแท็กติกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกมรุกที่ยืดหยุ่นของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ มาจนถึงฟุตบอลเน้นระบบของ แอนจ์ พอสเตโคกลู และปัจจุบันภายใต้การคุมทีมของ ชอน ไดช์ ที่เน้นระเบียบวินัยและความแข็งแกร่งทางกายภาพ ซึ่งดูเหมือนว่าสไตล์ศิลปินลูกหนังอย่างเขาจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของไดช์ได้อย่างลงตัว
อุปสรรคทางแท็กติกที่ขัดขวางการโชว์ศักยภาพ
ภายใต้การนำของ ชอน ไดช์ ฟอเรสต์เน้นเกมรับที่รัดกุมและการโต้กลับเร็ว ซึ่งอาจทำให้มิดฟิลด์ที่ต้องการพื้นที่และเวลาในการสร้างสรรค์เกมแบบเขาต้องอึดอัด ความไม่สอดคล้องระหว่างสไตล์ส่วนตัวกับปรัชญาของกุนซือคือปัจจัยหลักที่ทำให้เขาถูกลดบทบาทลงไปเป็นตัวสำรอง
แม็คคาที กับศึกชิงนางระหว่างเชลซีและทีมชั้นนำในพรีเมียร์ลีก
ไม่ใช่เพียงแค่เชลซีเท่านั้นที่กำลังให้ความสนใจ แต่ยังมีสโมสรอื่นในลีกอังกฤษที่พร้อมจะเปิดศึกชิงลายเซ็นของเขาเพื่อยกระดับทีมเช่นกัน
เชลซี แกนนำในการล่าตัวมิดฟิลด์จอมเทคนิค
เชลซีภายใต้การบริหารยุคใหม่เน้นการสะสมนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูง และพวกเขามองว่าค่าตัว 30 ล้านปอนด์ที่ฟอเรสต์เคยจ่ายไปนั้นคุ้มค่าที่จะลงทุนต่อ หากสามารถปลุกฟอร์มเก่งของนักเตะกลับมาได้ เชลซีพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอที่เป็นตัวเลขที่น่าสนใจเพื่อดึงเขามาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์อนาคต
ลีดส์ ยูไนเต็ด และบอร์นมัธ ที่พร้อมร่วมวงไพบูลย์
สโมสรอย่าง ลีดส์, บอร์นมัธ, ฟูแล่ม รวมถึง ซันเดอร์แลนด์ ต่างจับจ้องสถานการณ์นี้อย่างไม่วางตา ทีมเหล่านี้พร้อมจะมอบ “การันตีตัวจริง” ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะถวิลหามากที่สุด เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบในการเจรจาแข่งกับทีมใหญ่อย่างเชลซี
แม็คคาที กับความเนื้อหอมที่ข้ามพรมแดนไปยังลีกยุโรป
นอกจากสโมสรในอังกฤษแล้ว ศักยภาพของเขายังไปเตะตาเหล่าบรรดาแมวมองจากสโมสรชั้นนำในเยอรมนี โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนานักเตะดาวรุ่ง
สายตาที่จับจ้องจากบุนเดสลีกา เยอรมัน
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การนำของกุนซือที่เน้นเกมรุก รวมถึง สตุ๊ตการ์ท, แอร์เบ ไลป์ซิก และ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ต่างมองว่าการดึงตัวเขาไปร่วมทีมในราคาที่อาจจะตกลงมาจากเดิม คือดีลที่คุ้มค่าทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
ตลาดยุโรปใต้อย่างปอร์โต้และยักษ์ใหญ่ดัตช์
ปอร์โต้ ยอดทีมจากโปรตุเกส และ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จากเนเธอร์แลนด์ ก็เป็นอีกสองค่ายที่พร้อมจะเสนอเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับเขาเพื่อโน้มน้าวใจให้ย้ายออกจากเกาะอังกฤษ ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจหากเขาต้องการหลีกหนีความกดดันจากพรีเมียร์ลีกไปชั่วคราว
แม็คคาที กับการตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อกอบกู้อาชีพค้าแข้งในวัย 23 ปี
ด้วยอายุที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพ การนั่งอยู่ข้างสนามไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เขาจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในตลาดซื้อขายครั้งหน้านี้
การพิสูจน์ตัวเองเพื่อโอกาสในทีมชาติ
เขายังมีความฝันที่จะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แต่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเขาไม่มีสถิติการลงสนามและผลงานที่จับต้องได้ การย้ายทีมอาจเป็นประตูบานเดียวที่เปิดไปสู่โอกาสนั้น ซึ่งเชลซีอาจเป็นเวทีที่ใหญ่พอจะสปอร์ตไลท์ส่งถึงสายตากุนซือทีมชาติ
บทสรุปของอนาคตในถิ่นซิตี้ กราวด์
หาก ชอน ไดช์ ยังไม่สามารถมอบโอกาสที่ยุติธรรมให้กับเขาได้ การแยกทางน่าจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ฟอเรสต์อาจได้ทุนคืนบางส่วน ขณะที่ตัวนักเตะจะได้ไปเริ่มต้นใหม่ในสถานที่ที่มองเห็นคุณค่าในพรสวรรค์ของเขาอย่างแท้จริง
สรุปข่าว
แม็คคาที มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 23 ปีของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากหลังได้รับโอกาสลงสนามน้อยมากภายใต้กุนซือ ชอน ไดช์ ส่งผลให้เจ้าตัวเริ่มมองหาลู่ทางการย้ายทีม โดยมี เชลซี เป็นหัวหอกในการล่าตัว ท่ามกลางความสนใจจากหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกและทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป เช่น เลเวอร์คูเซ่น และ ปอร์โต้ ที่พร้อมยื่นข้อเสนอรับตัวไปร่วมทัพในตลาดซื้อขายรอบถัดไปเพื่อกอบกู้อนาคตการค้าแข้งของเขา
แม็คคาที คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับสถานการณ์การย้ายทีม
1. ทำไม แม็คคาที ถึงไม่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงให้ฟอเรสต์?
สาเหตุหลักมาจากแนวทางการคุมทีมของ ชอน ไดช์ ที่เน้นระบบการเล่นที่แข็งแกร่งและเน้นเกมรับ ซึ่งอาจจะไม่เอื้อต่อสไตล์การเล่นที่เน้นการสร้างสรรค์เกมรุกและความสวยงามของแม็คคาที ทำให้เขาเป็นเพียงตัวเลือกรองในปัจจุบัน
2. สโมสรใดบ้างในพรีเมียร์ลีกที่ให้ความสนใจเขาอย่างจริงจัง?
นอกจาก เชลซี ที่เป็นตัวเต็งแล้ว ยังมีสโมสรอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด, บอร์นมัธ, ฟูแล่ม และ ซันเดอร์แลนด์ ที่กำลังจับตามองสถานการณ์ของเขาอย่างใกล้ชิดเพื่อโอกาสในการดึงตัวไปร่วมทีม
3. มีสโมสรจากต่างแดนทีมไหนบ้างที่เป็นคู่แข่งของเชลซี?
มีทีมชั้นนำหลายทีม เช่น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, แอร์เบ ไลป์ซิก, สตุ๊ตการ์ท ในเยอรมนี รวมถึง ปอร์โต้ ในโปรตุเกส และ พีเอสวี ในเนเธอร์แลนด์ ที่สนใจดึงเขาไปพัฒนาต่อในลีคยุโรป
4. ค่าตัวที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ซื้อเขามาจากแมนฯ ซิตี้ อยู่ที่เท่าไหร่?
ฟอเรสต์ทุ่มเงินซื้อเขามาร่วมทีมด้วยมูลค่าเฉียด 30 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลายาวถึง 5 ปี
5. โอกาสที่เขาจะย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายรอบหน้ามีสูงแค่ไหน?
มีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากนักเตะเริ่มแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม โดยเฉพาะในเกมสำคัญล่าสุดกับแมนฯ ซิตี้ ซึ่งการย้ายทีมเพื่อโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่นักเตะให้ความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้
Guru Sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วนนอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ







