เอล กลาซิโก้ คือคู่ปรับชิงความเป็นใหญ่ในลาลีกา ระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลสเปน ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าประทับใจ ตั้งแต่เริ่มต้นลาลีกาในทศวรรษ 1920 จนถึงปัจจุบัน วันนี้ Thscore จะพาไปย้อนรอยเหตุการณ์น่าจดจำที่เกิดขึ้นในศึกครั้งนี้
สารบัญ
Toggleจุดเริ่มต้นของ “เอล กลาซิโก้”
ฤดูกาลแรกของลาลีกาในปี 1929 เป็นจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด โดยเรอัล มาดริดเป็นฝ่ายบุกไปชนะ 2-1 ที่คัมป์ เด เลส คอร์ทส ก่อนที่ในอีกนัด บาร์เซโลน่าจะบุกไปชนะ 1-0 ที่เอสตาดิโอ ชามาติน และเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในประวัติศาสตร์
เอล กลาซิโก้ ที่ชนะขาดลอยสุดในลาลีกา
ในฤดูกาล 1934/35 เกมดังกล่าวระหว่างสองทีมได้สร้างสถิติชนะขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ลาลีกา เมื่อ เรอัล มาดริด บุกไปชนะ บาร์เซโลน่า ถึง 8-2 ที่เอสตาดิโอ ชามาติน แม้ว่ากุนซือ เฟเรนซ์ แพลตต์โก ของบาร์ซ่าจะพยายามขอเปลี่ยนลูกบอลในช่วงพักครึ่งก็ตาม
จุดเริ่มต้นภาพจำของเอล กลาซิโก้
ช่วงกลางทศวรรษ 1930 เกิดสงครามกลางเมืองในสเปน ส่งผลให้ “เอล กลาซิโก้” มีความดุเดือดมากขึ้น โดยเกมที่ บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด 5-5 ที่คัมป์ เด เลส คอร์ทส ในปี 1943 ถือเป็นเกมที่มีสกอร์เสมอกันสูงสุดในประวัติศาสตร์
ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ครั้งแรก
ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1959 เป็นครั้งแรกที่เกม “เอล กลาซิโก้” ได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในสเปน โดย เรอัล มาดริด ยุคที่มี อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ และ เฟเรนซ์ ปุสกัส เป็นนักเตะ เปิดซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ชนะ 1-0 แต่ บาร์เซโลน่า กลับเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ลีกเมื่อจบซีซั่น
ดิ สเตฟาโน่ ยังตามหลอกหลอนบาร์ซ่า
อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ นักเตะ เรอัล มาดริด ยังคงสร้างความหนักใจให้กับ บาร์เซโลน่า ต่อเนื่องจากยุค 1950 เมื่อเขายิง 2 ประตู ในเกมที่ราชันชุดขาวบุกไปชนะ 5-3 ที่คัมป์ นู ในเดือนธันวาคม 1960
นักเตะเทวดาแห่ง บาร์เซโลน่า
โยฮัน ครัฟฟ์ อดีตตำนานนักเตะของบาร์เซโลน่า ถือเป็นพระเอกของเกม “เอล กลาซิโก้” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1974 หลังยิง 1 ประตู และทำ 3 แอสซิสต์ ช่วยให้บาร์ซ่าบุกไปถล่ม เรอัล มาดริด ถึงซานติอาโก้ เบอร์นาเบว 5-0 และคว้าแชมป์ลาลีกาในซีซั่นนั้น
ราชันชุดขาวแชมป์ 5 ซีซั่นติดต่อกัน
ในเดือนมีนาคม 1986 เรอัล มาดริด เปิดซานติอาโก้ เบอร์นาเบว รับมือ บาร์เซโลน่า ที่หวังคว้าแชมป์ลาลีกาครั้งแรกในรอบ 6 ปี และเป็นราชันชุดขาวที่ชนะไป 3-1 ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ของการครองโทรฟี่ลีกสูงสุด 5 ฤดูกาลติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1986-1990
ปรัชญาแห่ง ครัฟฟ์ สร้างบาร์ซ่ายุคดรีมทีม
ปรัชญาฟุตบอลของ โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของ บาร์เซโลน่า ที่ถูกปลูกฝังมาในยุค 1990 ซึ่งนำไปสู่การสร้าง “ดรีมทีม” ที่คว้าแชมป์ลาลีกา 4 สมัยติดต่อกัน และหนึ่งในนั้นคือการเปิดคัมป์ นู ถล่ม เรอัล มาดริด 5-0 เมื่อปี 1994
แฟนราชันชุดขาว ปรบมือให้ โรนัลดินโญ่
โรนัลดินโญ่ เป็นนักเตะไม่กี่คนที่ แฟน เรอัล มาดริด พร้อมใจกันยืนปรบมือให้ในการเล่น และยอมรับว่าเขามีทักษะที่สุดยอดในยุค โดยในเกมนั้น โรนัลดินโญ่ ยิงคนเดียวไป 2 ประตู ในเกมที่บาร์ซ่า บุกไปถล่มถึง บ้าน เบอร์นาเบว 3 ต่อ 0 ปี 2005
เมสซี่ ชูเสื้อเร้าราชันชุดขาว
ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานแข้ง บาร์ซ่า เราแฟนบอลราชันชุดขาว ปี 2017 เมื่อเขาซัดประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยเฉือดเอาชนะ มาดริด 3-2 โดยเขาได้ชูเสื้อบาซ่าต่อให้แฟนๆของราชันชุดขาว
สรุป
จะเห็นได้ว่าในแต่ละทศวรรษ ศึก “เอล กลาซิโก้” ระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ล้วนแต่มีเรื่องราวและความทรงจำที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลทุกคน ทั้งจากความเข้มข้นของการแข่งขัน การสร้างสถิติ และโมเมนต์ที่น่าจดจำตลอดกาล
Guru Sports แหล่งข้อมูลข่าวสารชั้นนำจากลีกชั้นนำระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา และกัลโช่ เซเรีย อา ที่คุณสามารถติดตามผลบอล วิเคราะห์บอล และตารางบอลได้อย่างครบถ้วน