Skip to content

โทมัส ซูเช็ค เปิดใจสารภาพ กองกลางเวสต์แฮมเผชิญปัญหาสุขภาพจิตขั้นรุนแรง ยอมรับครั้งหนึ่งเคยคิดจะแขวนสตั๊ด

Share

ในโอกาสสำคัญของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพจิตของผู้ชาย (Movember) ชื่อของ โทมัส ซูเช็ค กองกลางคนสำคัญของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กลายเป็นที่จับตามองเมื่อเขาตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้ดิ้นรนกับปัญหาสุขภาพจิตของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาผ่านอัตชีวประวัติเล่มใหม่ที่มีชื่อว่า “ซุค” (Soucek) ซูเช็คยอมรับอย่างไม่ปิดบังว่า ปัญหาและความกดดันที่เกิดขึ้นนอกสนามนั้นรุนแรงถึงขนาดที่ทำให้ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดที่จะยุติอาชีพการค้าแข้งของตนเองลง ซึ่งการเปิดใจครั้งนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจและเป็นสัญญาณที่สำคัญสำหรับโลกฟุตบอลและสังคมโดยรวมว่า ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและไม่ควรมองข้าม ติดตาม ผลบอลสดๆ ได้ที่ ผลบอลสดthscore

โทมัส ซูเช็ค ต่อสู้กับโรคนอนไม่หลับและภาวะซึมเศร้า 2 ปีแห่งความสยดสยอง

โทมัส ซูเช็ค

ในอัตชีวประวัติฉบับสารภาพนี้ ซูเช็ค ได้เล่าถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้กับ โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) และ ภาวะซึมเศร้า (Depression) ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังภาพลักษณ์ของกองกลางที่แข็งแกร่งและทุ่มเทในสนาม

เขาเปิดเผยถึงความรู้สึกที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานนี้อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานาน “2 ปีแห่งความสยดสยอง ผมรู้สึกละอายที่จะพูดถึงเรื่องนี้เป็นเวลานาน แม้แต่พ่อแม่ของผม จนกระทั่งผมตัดสินใจเขียนคำสารภาพ ก็ยังไม่รู้เลยว่ามีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น” การยอมรับว่าเขารู้สึกละอายที่จะพูดถึงปัญหานี้ แม้แต่กับครอบครัวตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึงตราบาปทางสังคมที่ผู้ชายและนักกีฬาอาชีพต้องเผชิญเมื่อต้องรับมือกับความเปราะบางทางอารมณ์

โรคนอนไม่หลับ ที่เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับการนอนหลับ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือการนอนหลับยากหรือหลับไม่สนิทอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของเขา นำไปสู่อาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรงในเวลากลางวันและการทำงานบกพร่อง “บางอย่างที่รบกวนจิตใจผมมากจนผมคิดจะยุติอาชีพการค้าแข้ง” เขาเผยถึงจุดที่เขาเกือบจะตัดสินใจทิ้งทุกอย่างในอาชีพนักฟุตบอลที่เขารัก

“นอนไม่หลับ, ซึมเศร้า, กลัวอนาคต ห้องที่ 13 ของผม คุณไม่เชื่อหรอกใช่มั้ย? ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเมื่อมองย้อนกลับไป” ซูเช็คเปรียบเทียบอาการที่เกิดขึ้นกับ “ห้องที่ 13” ซึ่งเป็นเหมือนฝันร้ายที่หลายคนไม่กล้าก้าวเข้าไป เขาเปรียบเทียบความแข็งแกร่งทางร่างกายกับการต่อสู้ทางจิตใจอย่างชัดเจน “ในที่ที่คนอื่นไม่ยอมก้าวเท้าออกไป เพราะกลัวความเจ็บปวด ผมกลับกระโดดหัวทิ่ม นับแผลเป็นบนร่างกายไม่ได้ ผมจบการแข่งขันโดยพันผ้าที่หัวไว้ แต่นี่มันทำร้ายจิตใจผมจริง ๆ” ความเจ็บปวดทางจิตใจนั้นรุนแรงกว่าการบาดเจ็บทางร่างกายที่เขาเคยเผชิญมาทั้งหมด

การลงสนามโดยไร้การพักผ่อน ความกลัวที่ถาโถมและความกดดันในฐานะนักกีฬา

ซูเช็ค ต่อสู้กับโรคนอนไม่หลับ

ซูเช็ค ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงความทรมานที่ต้องลงสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพภายใต้สภาวะที่จิตใจไม่ปกติและร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

“ตอนแรกมันน่ารำคาญนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน มันก็เริ่มทนไม่ไหว ผมดำดิ่ง ผมต้องลงแข่งทุกแม็ตช์โดยไม่หลับไม่นอน ทุกแมตช์! คุณนึกภาพออกมั้ย?” การเปิดเผยที่น่าตกใจนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทอย่างหนักหน่วงที่ต้องใช้ในการลงเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกที่ต้องใช้พละกำลังและความเข้มข้นสูงที่สุดในโลก โดยที่ร่างกายไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเพียงพอ

สิ่งที่กัดกินจิตใจของ ซูเช็ค มากกว่าอาการทางร่างกายคือความกลัวและความกดดันที่เข้ามาถาโถมในฐานะนักกีฬาอาชีพ “ผมกลัวความล้มเหลว ผมกลัวปฏิกิริยา ผมกลัวทุกอย่าง” ความกลัวเหล่านี้ไม่ได้มาจากอาการบาดเจ็บทางร่างกาย แต่มาจากความกังวลว่าฟอร์มการเล่นของเขาจะได้รับผลกระทบจากภาวะนอนไม่หลับ และความกลัวต่อปฏิกิริยาของแฟนบอล, โค้ช, หรือเพื่อนร่วมทีมหากพวกเขาพบว่าเขากำลังต่อสู้กับปัญหาทางจิตใจ

การพยายามหาทางออกด้วยตัวเองกลับยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง “การพยายามหาทางออกจากสถานการณ์นี้นับพันวิธีทำให้ผมจมดิ่งลงไปในโคลนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเกมหนึ่งไปอีกเกมหนึ่ง ผมมุ่งเน้นไปที่การนอนไม่หลับเป็นหลัก ซึ่งจริง ๆ แล้วทำให้ผมรู้สึกรบกวนใจเป็น 2 เท่า” ความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตนเองโดยไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือการสนับสนุนที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในกลุ่มผู้ชายที่ถูกสอนให้เก็บงำความรู้สึก ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพจิต

แรงบันดาลใจเบื้องหลัง ‘ท่าเฮลิคอปเตอร์’ และความสำเร็จกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เรื่องราวการต่อสู้ของ ซูเช็ค ยังนำมาสู่การเปิดเผยถึงที่มาของการ ฉลองแบบเฮลิคอปเตอร์ อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งเป็นท่าที่เขาแสดงออกเกือบทุกครั้งหลังทำประตูได้สำเร็จกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด การฉลองนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงความดีใจธรรมดา ๆ เท่านั้น แต่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของการ รู้สึกเป็นอิสระ และการ หลีกหนี จากโรคร้ายที่เขากำลังเผชิญอยู่นอกสนาม

ซูเช็คกล่าวว่า: “นั่นคือเหตุผลที่ผมสร้างเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมา การเฉลิมฉลองประตูของผม ผมเริ่มหมุนตัวเล็กน้อยและเพลิดเพลินกับความรู้สึกของการทะยานขึ้น” ท่าหมุนแขนนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยตัวเองจากความกดดันทางจิตใจและความมืดมิดของภาวะซึมเศร้าและโรคนอนไม่หลับ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่แท้จริงและเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานที่สั่งสมมา

ซูเช็ค เข้าร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม 2020 และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างรวดเร็ว แม้จะต้องต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนัก เขาก็ยังสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้อย่างสม่ำเสมอ เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในปี 2023 และทำประตูให้กับสโมสรไปแล้วกว่า 30 ประตู รวมถึงการทำประตูสำคัญในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกมที่เอาชนะเบิร์นลี่ย์ได้อีกด้วย การเปิดเผยเรื่องราวของเขามีความสำคัญอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้ผู้คนและนักกีฬาอาชีพหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตไม่แพ้สุขภาพกาย

สรุปข่าว: ซูเช็ค กองกลางตัวเก่งของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาผ่านอัตชีวประวัติเล่มใหม่ว่าเขาเคยต่อสู้กับ โรคนอนไม่หลับ และ ภาวะซึมเศร้า อย่างรุนแรงติดต่อกัน 2 ปี จนถึงขั้นเคยคิดจะ แขวนสตั๊ด เพราะความทุกข์ทรมานทางจิตใจที่รุนแรงกว่าการบาดเจ็บทางกาย เขาเผยว่าการฉลองประตูด้วย ท่าเฮลิคอปเตอร์ อันเป็นเอกลักษณ์นั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากความรู้สึกของการหลีกหนีและเป็นอิสระจากโรคร้ายที่เผชิญอยู่ ซึ่งการเปิดใจครั้งนี้เกิดขึ้นในเดือนรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพจิตของผู้ชาย

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ซูเช็ค และสุขภาพจิต

1. ซูเช็ค เปิดเผยเรื่องปัญหาสุขภาพจิตของเขาผ่านช่องทางใด?

  • เขาเปิดเผยเรื่องราวการต่อสู้ดิ้นรนของเขาผ่านอัตชีวประวัติเล่มใหม่ที่มีชื่อว่า “ซุค” (Soucek)

2. ปัญหาที่ ซูเช็ค เผชิญคืออะไร และมีระยะเวลานานแค่ไหน?

  • เขาเผชิญกับปัญหา โรคนอนไม่หลับ และ ภาวะซึมเศร้า ติดต่อกันนานถึง 2 ปี

3. ปัญหาสุขภาพจิตส่งผลกระทบต่ออาชีพค้าแข้งของเขาอย่างไร?

  • ปัญหาดังกล่าวรุนแรงมากจนทำให้ ซูเช็ค ยอมรับว่าครั้งหนึ่งเขาเคยคิดที่จะ ยุติอาชีพการค้าแข้ง ลง

4. ท่าเฮลิคอปเตอร์ ในการฉลองประตูของ ซูเช็ค มีที่มาอย่างไร?

  • ท่าฉลองดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของการ รู้สึกเป็นอิสระ และการ ทะยานขึ้น เพื่อหลีกหนีจากโรคร้ายทางจิตใจที่เขากำลังเผชิญอยู่

5. ซูเช็ค มีความสำเร็จอะไรกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด?

  • เขาเข้าร่วมทีมในเดือนมกราคม 2020 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในปี 2023

Guru Sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สารบัญ