ทีมที่เข้ารอบ ยูโร 2024 ทั้งหมด 24 ทีม จากการแข่งขันคัดเลือกทีมเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกยูโร 2024 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปครั้งที่ 17 ได้สิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกเริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค. 2023 และแบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 นัด ก่อนจะมีการแข่งขันรอบเพลย์ออฟในเดือน มี.ค. 2024 เพื่อคัดเลือกทีมที่จะเข้าร่วมในรอบสุดท้าย ซึ่งมีทีมชั้นนำหลายทีมที่ต้องมาพบกันในรอบคัดเลือก เช่น อิตาลีและอังกฤษที่อยู่ในกลุ่ม C และฝรั่งเศสกับเนเธอร์แลนด์ที่เป็นแชมป์เก่ามาพบกันในกลุ่ม B
สารบัญ
Toggle1. รายชื่อทีมทั้งหมดในยูโร 2024
ในฐานะเจ้าภาพ เยอรมนีเป็นทีมเดียวที่ได้ผ่านเข้าสู่ยูโร 2024 ก่อนการแข่งขันรอบคัดเลือกในเดือนตุลาคม
ส่วน ทีมที่เข้ารอบ ยูโร 2024 รอบสุดท้าย นอกจากเจ้าภาพ มีดังนี้
ทีม | คุณสมบัติของการเข้ารอบสุดท้าย |
เยอรมัน | เจ้าภาพ |
เบลเยียม | กลุ่ม F — อันดับที่ 1 |
ฝรั่งเศส | กลุ่ม B — อันดับที่ 1 |
โปรตุเกส | กลุ่ม J — อันดับที่ 1 |
สกอตแลนด์ | กลุ่ม A — อันดับที่ 2 |
สเปน | กลุ่ม A — อันดับที่ 1 |
ตุรกี | กลุ่ม D – อันดับที่ 1 |
ออสเตรีย | กลุ่ม F — อันดับที่ 2 |
อังกฤษ | กลุ่ม C — อันดับที่ 1 |
ฮังการี | กลุ่ม G — อันดับที่ 1 |
สโลวาเกีย | กลุ่ม J — อันดับที่ 2 |
แอลเบเนีย | กลุ่ม E – อันดับที่ 1 |
สาธารณรัฐเช็ก | กลุ่ม E – อันดับที่ 2 |
เดนมาร์ก | กลุ่ม H — อันดับที่ 1 |
เนเธอร์แลนด์ | กลุ่ม B — อันดับที่ 2 |
โรมาเนีย | กลุ่ม I – อันดับที่ 1 |
สวิตเซอร์แลนด์ | กลุ่ม I – อันดับที่ 2 |
สโลวีเนีย | กลุ่ม J — อันดับที่ 2 |
เซอร์เบีย | กลุ่ม G — อันดับที่ 2 |
โครเอเชีย | กลุ่ม D – อันดับที่ 2 |
อิตาลี | กลุ่ม C — อันดับที่ 2 |
โปแลนด์ | เพลย์ออฟ |
จอร์เจีย | เพลย์ออฟ |
ยูเครน | เพลย์ออฟ |
เงื่อนการเข้ารอบสุดท้ายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 (Euro 2024)
จาก 53 ทีมที่เข้ารอบคัดเลือก มี 23 ทีมจะได้เล่นในรอบสุดท้ายร่วมกับเยอรมัน ทีมเหล่านั้นถูกแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม : 7 กลุ่ม มีทั้งหมด 5 ทีม และ 3 กลุ่ม มีทั้งหมด 6 ทีม
สองอันดับแรกจากรอบแบ่งกลุ่มคัดเลือกที่ผ่านการคัดเลือก 20 ทีม ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือจะเป็นของผู้ชนะในเกมเพลย์ออฟ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2022-23
2. ยูโรรอบคัดเลือก ตารางกลุ่ม, ผลการแข่งขัน, โปรแกรมการแข่งขัน
กลุ่ม A
สเปน และ สกอตแลนด์ ผ่านเข้ารอบเพราะสเปน ชนะ นอร์เวย์ 1-0 เมื่อวันที่ 15 ต.ค.
ทีม | แต้ม | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ต่าง |
1. สเปน (Q) | 21 | 8 | 7 | 1 | 0 | +20 |
2. สกอตแลนด์ (Q) | 17 | 8 | 5 | 1 | 2 | +9 |
3. นอร์เวย์ | 11 | 8 | 3 | 3 | 2 | +2 |
4. จอร์เจีย (P) | 8 | 8 | 2 | 4 | 2 | -6 |
5. ไซปรัส | 0 | 8 | 0 | 8 | 0 | -25 |
- 25 มี.ค. : สกอตแลนด์ 3-0 ไซปรัส, สเปน 3-0 นอร์เวย์
- 28 มี.ค. : จอร์เจีย 1-1 นอร์เวย์, สกอตแลนด์ 2-0 สเปน
- 17 มิ.ย. : นอร์เวย์ 1-2 สกอตแลนด์, ไซปรัส 1-2 จอร์เจีย
- 20 มิ.ย. : นอร์เวย์ 3-1 ไซปรัส, สกอตแลนด์ 2-0 จอร์เจีย
- 8 ก.ย.: จอร์เจีย 1-7 สเปน, ไซปรัส 0-3 สกอตแลนด์
- 12 ก.ย.: นอร์เวย์ 2-1 จอร์เจีย, สเปน 6-0 ไซปรัส
- 12 ต.ค. : ไซปรัส 0-4 นอร์เวย์, สเปน 2-0 สกอตแลนด์
- 15 ต.ค. : จอร์เจีย 4-0 ไซปรัส, นอร์เวย์ 0-1 สเปน
- 16 พ.ย. : จอร์เจีย 2-2 สกอตแลนด์, ไซปรัส 1-3 สเปน
- 19 พ.ย. : สกอตแลนด์ 3-3 นอร์เวย์, สเปน 3-1 จอร์เจีย
กลุ่ม B
ฝรั่งเศส แชมป์ 2 สมัยและแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 จากกลุ่ม B ในแมตช์เดย์การแข่งขันครั้งที่ 7 ด้วยการชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ที่อัมสเตอร์ดัม
เนเธอร์แลนด์ ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยการเอาชนะ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในวันที่ พ.ย. 18. กรีซสามารถผ่านเข้ารอบจากรอบเพลย์ออฟ
ทีม | แต้ม | แข่ง | ชนะ | แพ้ | เสมอ | ต่าง |
1. ฝรั่งเศส (Q) | 21 | 8 | 7 | 0 | 1 | +26 |
2. เนเธอร์แลนด์ (Q) | 15 | 8 | 6 | 2 | 0 | +10 |
3. กรีซ (P) | 15 | 8 | 5 | 3 | 0 | +6 |
4. สาธารณรัฐไอร์แลนด์ | 6 | 8 | 2 | 6 | 0 | -1 |
5. ยิบรอลตาร์ | 0 | 8 | 0 | 8 | 0 | -41 |
- มี.ค. 24: ฝรั่งเศส 4-0 เนเธอร์แลนด์, ยิบรอลตาร์ 0-3 กรีซ
- มี.ค. 27: เนเธอร์แลนด์ 3-0 ยิบรอลตาร์, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 0-1 ฝรั่งเศส
- มิ.ย. 16: ยิบรอลตาร์ 0-3 ฝรั่งเศส, กรีซ 2-1 สาธารณรัฐไอร์แลนด์
- มิ.ย. 19: ฝรั่งเศส 1-0 กรีซ, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 3-0 ยิบรอลตาร์
- ก.ย.7: ฝรั่งเศส 2-0 สาธารณรัฐไอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์ 3-0 กรีซ
- ก.ย.10: กรีซ 5-0 ยิบรอลตาร์, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 1-2 เนเธอร์แลนด์
- ต.ค. 13: เนเธอร์แลนด์ 1-2 ฝรั่งเศส, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 0-2 กรีซ
- ต.ค. 16: ยิบรอลตาร์ 0-4 สาธารณรัฐไอร์แลนด์, กรีซ 0-1 เนเธอร์แลนด์
- พ.ย. 18: ฝรั่งเศส 14-0 ยิบรอลตาร์, เนเธอร์แลนด์ 1-0 สาธารณรัฐไอร์แลนด์
- พ.ย. 21: ยิบรอลตาร์ 0-6 เนเธอร์แลนด์, กรีซ 2-2 ฝรั่งเศส
กลุ่ม C
อังกฤษ ผ่านเข้ารอบยูโร 2024 หลังจากเอาชนะคู่แข่ง อิตาลี ได้ 3-1 ที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 17 ต.ค.
อิตาลี ผ่านเข้ารอบด้วยการเสมอ ยูเครน 0-0 ส่งผลให้ ยูเครน ได้ไปรอบเพลย์ออฟ
ทีม | แต้ม | แข่ง | ชนะ | แพ้ | เสมอ | ต่าง |
1. อังกฤษ (Q) | 20 | 8 | 6 | 0 | 2 | +18 |
2. อิตาลี (Q) | 14 | 8 | 4 | 2 | 2 | +7 |
3. ยูเครน (P) | 14 | 8 | 4 | 2 | 2 | +3 |
4. มาซิโดเนียเหนือ | 7 | 8 | 2 | 4 | 2 | -10 |
5. มอลตา | 0 | 8 | 0 | 8 | 0 | -18 |
- 23 มี.ค. : อิตาลี 1-2 อังกฤษ, มาซิโดเนียเหนือ 2-1 มอลตา
- 26 มี.ค. : อังกฤษ 2-0 ยูเครน, มอลตา 0-2 อิตาลี
- 16 มิ.ย. : มอลตา 0-4 อังกฤษ, มาซิโดเนียเหนือ 2-3 ยูเครน
- 19 มิ.ย. : ยูเครน 1-0 มอลตา, อังกฤษ 7-0 มาซิโดเนียเหนือ
- 9 ก.ย. : ยูเครน 1-1 อังกฤษ, มาซิโดเนียเหนือ 1-1 อิตาลี
- 12 ก.ย. : อิตาลี 2-1 ยูเครน, มอลตา 0-2 มาซิโดเนียเหนือ
- 14 ต.ค. : ยูเครน 2-0 มาซิโดเนียเหนือ, อิตาลี 4-0 มอลตา
- 17 ต.ค. : อังกฤษ 3-1 อิตาลี, มอลตา 1-3 ยูเครน
- 17 พ.ย. : อังกฤษ 2-0 มอลตา, อิตาลี 5-2 มาซิโดเนียเหนือ
- 20 พ.ย. : มาซิโดเนียเหนือ 1-1 อังกฤษ, ยูเครน 0-0 อิตาลี
กลุ่ม D
ตุรกี เป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบจากกลุ่ม D และโครเอเชีย เอาชนะอาร์เมเนีย ผ่านเข้ารอบตามไปติดๆเวลส์ เสมอ ตุรกี ในเกมสุดท้าย แต่ได้เข้าไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟ
ทีม | แต้ม | แข่ง | ชนะ | แพ้ | เสมอ | ต่าง |
1. ตุรกี (Q) | 17 | 8 | 5 | 1 | 2 | +7 |
2. โครเอเชีย (Q) | 16 | 8 | 5 | 2 | 1 | +9 |
3. เวลส์ (P) | 12 | 8 | 3 | 2 | 1 | 0 |
4. อาร์เมเนีย | 8 | 8 | 2 | 4 | 2 | -2 |
5. ลัตเวีย | 3 | 8 | 1 | 7 | 0 | -14 |
- 25 มี.ค. : อาร์เมเนีย 1-2 ตุรกี, โครเอเชีย 1-1 เวลส์
- 28 มี.ค. : ตุรกี 0-2 โครเอเชีย, เวลส์ 1-0 ลัตเวีย
- 16 มิ.ย. : ลัตเวีย 2-3 ตุรกี, เวลส์ 2-4 อาร์เมเนีย
- 19 มิ.ย. : อาร์เมเนีย 2-1 ลัตเวีย, ตุรกี 2-0 เวลส์
- 8 ก.ย. : โครเอเชีย 5-0 ลัตเวีย, ตุรกี 1-1 อาร์เมเนีย
- 11 ก.ย. : อาร์เมเนีย 0-1 โครเอเชีย, ลัตเวีย 0-1 เวลส์
- 12 ต.ค. : โครเอเชีย 0-1 ตุรกี, ลัตเวีย 2-0 อาร์เมเนีย
- 15 ต.ค. : ตุรกี 4-0 ลัตเวีย, เวลส์ 2-1 โครเอเชีย
- 18 พ.ย. : อาร์เมเนีย 1-1 เวลส์, ลัตเวีย 0-2 โครเอเชีย
- 21 พ.ย. : โครเอเชีย 1-0 อาร์เมเนีย, เวลส์ 1-1 ตุรกี
กลุ่ม E
แอลเบเนีย ผ่านเข้ารอบด้วยการเสมอกับมอลโดวา 1-1 และสาธารณรัฐเช็ก ก็ผ่านเข้ารอบร่วมกับแอลเบเนียด้วยการเอาชนะมอลโดวา
โปแลนด์จำเป็นต้องเอาชนะสาธารณรัฐเช็ก ในนัดที่ 9 ถึงจะผ่านเข้ารอบ แต่ทำไม่สำเร็จ เข้ารอบเพลย์ออฟไปลุ้น
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. แอลเบเนีย (Q) | 15 | 8 | 4 | 1 | 3 | +8 |
2. สาธารณรัฐเช็ก (Q) | 15 | 8 | 4 | 1 | 3 | +6 |
3. โปแลนด์ (P) | 11 | 8 | 3 | 3 | 2 | 0 |
4. มอลโดวา | 10 | 8 | 2 | 2 | 4 | -3 |
5. หมู่เกาะแฟโร | 2 | 8 | 0 | 6 | 2 | -11 |
- 24 มี.ค. : สาธารณรัฐเช็ก 3-1 โปแลนด์, มอลโดวา 1-1 หมู่เกาะแฟโร
- 27 มี.ค. : มอลโดวา 0-0 สาธารณรัฐเช็ก, โปแลนด์ 1-0 แอลเบเนีย
- 17 มิ.ย. : แอลเบเนีย 2-0 มอลโดวา, หมู่เกาะแฟโร 0-3 สาธารณรัฐเช็ก
- 20 มิ.ย. : หมู่เกาะแฟโร 1-3 แอลเบเนีย, มอลโดวา 3-2 โปแลนด์
- 7 ก.ย. : สาธารณรัฐเช็ก 1-1 แอลเบเนีย, โปแลนด์ 2-0 หมู่เกาะแฟโร
- 10 ก.ย. : หมู่เกาะแฟโร 0-1 มอลโดวา, แอลเบเนีย 2-0 โปแลนด์
- 12 ต.ค. : แอลเบเนีย 3-0 สาธารณรัฐเช็ก, หมู่เกาะแฟโร 0-2 โปแลนด์
- 15 ต.ค. : สาธารณรัฐเช็ก 1-0 หมู่เกาะแฟโร, โปแลนด์ 1-1 มอลโดวา
- 17 พ.ย. : มอลโดวา 1-1 แอลเบเนีย, โปแลนด์ 1-1 สาธารณรัฐเช็ก
- 20 พ.ย. : แอลเบเนีย 0-0 หมู่เกาะแฟโร, สาธารณรัฐเช็ก 3-0 มอลโดวา
กลุ่ม F
เบลเยียม คว้าชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในเกมกับออสเตรีย และล่าสุดออสเตรีย ก็ได้ผ่านเข้ารอบเช่นเดียวกัน เมื่อพวกเขาเอาชนะอาเซอร์ไบจาน
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. เบลเยียม (Q) | 20 | 8 | 7 | 0 | 1 | +18 |
2. ออสเตรีย (Q) | 19 | 8 | 6 | 1 | 2 | +10 |
3. สวีเดน | 10 | 8 | 3 | 4 | 1 | +2 |
4. อาเซอร์ไบจาน | 7 | 8 | 2 | 5 | 1 | -10 |
5. เอสโตเนีย | 1 | 8 | 0 | 7 | 1 | -20 |
- 24 มี.ค. : ออสเตรีย 4-1 อาเซอร์ไบจาน, สวีเดน 0-3 เบลเยียม
- 27 มี.ค. : ออสเตรีย 2-1 เอสโตเนีย, สวีเดน 5-0 อาเซอร์ไบจาน
- 17 มิ.ย. : อาเซอร์ไบจาน 1-1 เอสโตเนีย, เบลเยียม 1-1 ออสเตรีย
- 20 มิ.ย. : ออสเตรีย 2-0 สวีเดน, เอสโตเนีย 0-3 เบลเยียม
- 9 ก.ย. : อาเซอร์ไบจาน 0-1 เบลเยียม, เอสโตเนีย 0-5 สวีเดน
- 12 ก.ย. : เบลเยียม 5-0 เอสโตเนีย, สวีเดน 1-3 ออสเตรีย
- 13 ต.ค. : ออสเตรีย 2-3 เบลเยียม, เอสโตเนีย 0-2 อาเซอร์ไบจาน
- 16 ต.ค. : อาเซอร์ไบจาน 0-1 ออสเตรีย, เบลเยียม 1-1 สวีเดน*
- 16 พ.ย. : อาเซอร์ไบจาน 3-0 สวีเดน, เอสโตเนีย 0-2 ออสเตรีย
- 19 พ.ย. : เบลเยียม 5-0 อาเซอร์ไบจาน, สวีเดน 2-0 เอสโตเนีย
กลุ่ม G
ฮังการี ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของยูโร 2024 ในบัลแกเรีย
ในขณะเดียวกัน เซอร์เบียก็ต้องรอจนถึงวันสุดท้ายของรอบคัดเลือก โดยพวกเขาได้เป็นทีมสุดท้ายในกลุ่มที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของยูโร 2024 หลังจากเสมอกับบัลแกเรีย ในขณะที่มอนเตเนโกรแพ้ให้กับฮังการี
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. ฮังการี (Q) | 18 | 8 | 5 | 0 | 3 | +9 |
2. เซอร์เบีย (Q) | 14 | 8 | 4 | 2 | 2 | +6 |
3. มอนเตเนโกร | 11 | 8 | 3 | 3 | 2 | -2 |
4. ลิทัวเนีย | 6 | 8 | 1 | 4 | 3 | -6 |
5. บัลแกเรีย | 4 | 8 | 0 | 4 | 4 | -7 |
- 24 มี.ค. : บัลแกเรีย 0-1 มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย 2-0 ลิทัวเนีย
- 27 มี.ค. : ฮังการี 3-0 บัลแกเรีย, มอนเตเนโกร 0-2 เซอร์เบีย
- 17 มิ.ย. : ลิทัวเนีย 1-1 บัลแกเรีย, มอนเตเนโกร 0-0 ฮังการี
- 20 มิ.ย. : บัลแกเรีย 1-1 เซอร์เบีย, ฮังการี 2-0 ลิทัวเนีย
- 7 ก.ย. : ลิทัวเนีย 2-2 มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย 1-2 ฮังการี
- 10 ก.ย. : มอนเตเนโกร 2-1 บัลแกเรีย, ลิทัวเนีย 1-3 เซอร์เบีย
- 14 ต.ค. : บัลแกเรีย 0-2 ลิทัวเนีย, ฮังการี 2-1 เซอร์เบีย
- 17 ต.ค. : ลิทัวเนีย 2-2 ฮังการี, เซอร์เบีย 3-1 มอนเตเนโกร
- 16 พ.ย. : บัลแกเรีย 2-2 ฮังการี, มอนเตเนโกร 2-0 ลิทัวเนีย
- 19 พ.ย. : ฮังการี 3-1 มอนเตเนโกร, เซอร์เบีย 2-2 บัลแกเรีย
กลุ่ม H
ในกลุ่ม H การแข่งขันชิงตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเป็นไปอย่างสูสี จนถึงวินาทีสุดท้าย เดนมาร์กสามารถคว้าตั๋วเข้ารอบได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะ สโลวีเนีย แม้ว่าสโลวีเนียจะยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบสุดท้ายในนัดสุดท้ายก็ตาม
ในขณะเดียวกัน สโลวีเนียก็ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายอย่างสำเร็จ หลังจากเอาชนะ คาซัคสถาน ในเกมที่ลงเล่นในสนามของตัวเอง
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. เดนมาร์ก (Q) | 22 | 10 | 7 | 2 | 1 | +9 |
2. สโลวีเนีย (Q) | 22 | 10 | 7 | 2 | 1 | +11 |
3. ฟินแลนด์ (P) | 18 | 10 | 6 | 4 | 0 | +8 |
4. คาซัคสถาน (P) | 18 | 10 | 6 | 4 | 0 | +4 |
5. ไอร์แลนด์เหนือ | 9 | 10 | 3 | 7 | 0 | -4 |
6. ซานมารีโน | 0 | 10 | 0 | 10 | 0 | -28 |
- 23 มี.ค. : คาซัคสถาน 1-2 สโลวีเนีย, เดนมาร์ก 3-1 ฟินแลนด์, ซานมารีโน 0-2 ไอร์แลนด์เหนือ
- 26 มี.ค. : คาซัคสถาน 3-2 เดนมาร์ก, สโลวีเนีย 2-0 ซานมารีโน, ไอร์แลนด์เหนือ 0-1 ฟินแลนด์
- 16 มิ.ย. : เดนมาร์ก 1-0 ไอร์แลนด์เหนือ, ฟินแลนด์ 2-0 สโลวีเนีย, ซานมารีโน 0-3 คาซัคสถาน
- 19มิ.ย. : ฟินแลนด์ 6-0 ซานมารีโน, ไอร์แลนด์เหนือ 0-1 คาซัคสถาน, สโลวีเนีย 1-1 เดนมาร์ก
- 7 ก.ย. : คาซัคสถาน 0-1 ฟินแลนด์, เดนมาร์ก 4-0 ซานมารีโน, สโลวีเนีย 4-2 ไอร์แลนด์เหนือ
- 10 ก.ย. : คาซัคสถาน 1-0 ไอร์แลนด์เหนือ, ฟินแลนด์ 0-1 เดนมาร์ก, ซานมารีโน 0-4 สโลวีเนีย
- 14 ต.ค. : ไอร์แลนด์เหนือ 3-0 ซานมารีโน, สโลวีเนีย 3-0 ฟินแลนด์, เดนมาร์ก 3-1 คาซัคสถาน
- 17 ต.ค. : ฟินแลนด์ 1-2 คาซัคสถาน, ไอร์แลนด์เหนือ 0-1 สโลวีเนีย, ซานมารีโน 1-2 เดนมาร์ก
- 17 พ.ย. : คาซัคสถาน 3-1 ซานมารีโน, ฟินแลนด์ 4-0 ไอร์แลนด์เหนือ, เดนมาร์ก 2-1 สโลวีเนีย
- 20 พ.ย. : ไอร์แลนด์เหนือ 2-0 เดนมาร์ก, ซานมารีโน 1-2 ฟินแลนด์, สโลวีเนีย 2-1 คาซัคสถาน
กลุ่ม I
การแข่งขันนัดที่ 9 ทีมใน กลุ่ม I ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโดย โรมาเนีย เอาชนะ อิสราเอล ด้วยสกอร์ 2-1 ส่งผลให้พวกเขาได้รับสิทธิ์ไปเล่นรอบสุดท้าย ในขณะที่ อิสราเอล ต้องเตรียมตัวสำหรับรอบเพลย์ออฟ
ในอีกคู่ สวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้เข้าสู่รอบสุดท้ายเช่นกัน หลังจากแข่งเสมอกับ โคโซโว 1-1 ซึ่งทำให้คู่แข่งของพวกเขาต้องตกรอบ
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. โรมาเนีย (Q) | 22 | 10 | 6 | 0 | 4 | +11 |
2. สวิตเซอร์แลนด์ (Q) | 17 | 10 | 4 | 1 | 5 | +11 |
3. อิสราเอล (P) | 15 | 10 | 4 | 3 | 3 | 0 |
4. เบลารุส | 12 | 10 | 3 | 4 | 3 | -5 |
5. โคโซโว | 11 | 10 | 2 | 3 | 5 | 0 |
6. อันดอร์รา | 2 | 10 | 0 | 7 | 2 | -17 |
- 25 มี.ค. : เบลารุส 0-5 สวิตเซอร์แลนด์, อันดอร์รา 0-2 โรมาเนีย, อิสราเอล 1-1 โคโซโว
- 28 มี.ค. : โคโซโว 1-1 อันดอร์รา, โรมาเนีย 2-1 เบลารุส, สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 อิสราเอล
- 16 มิ.ย. : อันดอร์รา 1-2 สวิตเซอร์แลนด์, เบลารุส 1-2 อิสราเอล, โคโซโว 0-0 โรมาเนีย
- 19 มิ.ย. : เบลารุส 2-1 โคโซโว, อิสราเอล 2-1 อันดอร์รา, สวิตเซอร์แลนด์ 2-2 โรมาเนีย
- 9 ก.ย. : อันดอร์รา 0-0 เบลารุส, โคโซโว 2-2 สวิตเซอร์แลนด์, โรมาเนีย 1-1 อิสราเอล
- 12 ก.ย. : อิสราเอล 1-0 เบลารุส, โรมาเนีย 2-0 โคโซโว, สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 อันดอร์รา
- 12 ต.ค. : อันดอร์รา 0-3 โคโซโว, เบลารุส 0-0 โรมาเนีย, อิสราเอล vs สวิตเซอร์แลนด์
- 15 ต.ค. : สวิตเซอร์แลนด์ 3-3 เบลารุส, โคโซโว vs อิสราเอล, โรมาเนีย 4-0 อันดอร์รา
- 12 พ.ย. : โคโซโว 1-0 อิสราเอล
- 15 พ.ย. : อิสราเอล 1-1 สวิตเซอร์แลนด์
- 18 พ.ย. : เบลารุส 1-0 อันดอร์รา, อิสราเอล 1-2 โรมาเนีย, สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 โคโซโว
- 21 พ.ย. : อันดอร์รา 0-2 อิสราเอล, โคโซโว 0-1 เบลารุส, โรมาเนีย 1-0 สวิตเซอร์แลนด์
กลุ่ม J
ภายใต้การนำของ คริสเตียโน โรนัลโด เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย โปรตุเกส แชมป์ยูโร 2016 ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ หลังเปิดรังโค่น สโลวาเกีย 2-0 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม โดยมีประตูคนละ 1 ลูกจากกัปตันทีม ซึ่งนับเป็นดาวซัลโวสูงสุดในรอบคัดเลือก
ในขณะที่ สโลวาเกีย ก็ประกาศตัวเข้าสู่รอบสุดท้ายได้เช่นกัน หลังเปิดบ้านชนะ ไอซ์แลนด์
ทีม | แต้ม | แข่ง | W | L | D | ต่าง |
1. โปรตุเกส (Q) | 30 | 10 | 9 | 0 | 0 | +34 |
2. สโลวาเกีย (Q) | 22 | 10 | 7 | 2 | 1 | +9 |
3. ลักเซมเบิร์ก (P) | 17 | 10 | 5 | 3 | 2 | -6 |
4. ไอซ์แลนด์ | 10 | 10 | 3 | 6 | 1 | +1 |
5. บอสเนีย & เฮอร์เซโกวีนา (P) | 9 | 10 | 3 | 7 | 0 | -11 |
6. ลิกเตนสไตน์ | 0 | 10 | 0 | 10 | 0 | -27 |
- 23 มี.ค. : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 3-0 ไอซ์แลนด์, โปรตุเกส 4-0 ลิกเตนสไตน์, สโลวาเกีย 0-0 ลักเซมเบิร์ก
- 26 มี.ค. : ลิกเตนสไตน์ 0-7 ไอซ์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก 0-6 โปรตุเกส, สโลวาเกีย 2-0 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 17 มิ.ย. : ลักเซมเบิร์ก 2-0 ลิกเตนสไตน์, ไอซ์แลนด์ 1-2 สโลวาเกีย, โปรตุเกส 3-0 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 20 มิ.ย. : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 0-2 ลักเซมเบิร์ก, ไอซ์แลนด์ 0-1 โปรตุเกส, ลิกเตนสไตน์ 0-1 สโลวาเกีย
- 8 ก.ย. : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 2-1 ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก 3-1 ไอซ์แลนด์, สโลวาเกีย 0-1 โปรตุเกส
- 11 ก.ย. : ไอซ์แลนด์ 1-0 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โปรตุเกส 9-0 ลักเซมเบิร์ก, สโลวาเกีย 3-0 ลิกเตนสไตน์
- 13 ต.ค. : ไอซ์แลนด์ 1-1 ลักเซมเบิร์ก, ลิกเตนสไตน์ 0-2 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, โปรตุเกส 3-2 สโลวาเกีย
- 16 ต.ค. : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 0-5 โปรตุเกส, ไอซ์แลนด์ 4-0 ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก 0-1 สโลวาเกีย
- 16 พ.ย. : ลิกเตนสไตน์ 0-2 โปรตุเกส, ลักเซมเบิร์ก 4-1 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, สโลวาเกีย 4-2 ไอซ์แลนด์
- 29 พ.ย. : บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 1-2 สโลวาเกีย, ลิกเตนสไตน์ 0-1 ลักเซมเบิร์ก, โปรตุเกส 2-0 ไอซ์แลนด์
4. รอบเพลย์ออฟยูโร 2024 จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?
ในปี 2567 รายการยูโร 2024 จะจัดการแข่งขันพลย์ออฟในเดือนมี.ค. โดยมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 12 ทีม
การแข่งขันเพลย์ออฟจะแบ่งออกเป็น 6 รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 21 มี.ค. 2567 และจากนั้นจะมี 3 รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 26 มี.ค. 2567 โดยการแข่งขันจะเป็นแบบเกมเดียว ไม่มีการแข่งขันเหย้า-เยือน
รอบรองชนะเลิศจะถูกแบ่งออกเป็น 3 สาย ได้แก่ กลุ่ม A, กลุ่ม B และ กลุ่ม C โดยแต่ละสายจะมีการแข่งขัน 2 คู่ และจะมีการจับสลากเพื่อกำหนดว่าทีมใดจะได้เป็นเจ้าบ้านในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทีมในแต่ละสายจะได้รับการจัดอันดับตามการจัดอันดับของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA Nations League) โดยทีมอันดับ 1 จะพบกับทีมอันดับ 4 และทีมอันดับ 2 จะพบกับทีมอันดับ 3 ผู้ชนะในรอบชิงชนะเลิศทั้ง 3 ทีม จะได้เข้าร่วมการแข่งขันยูโร 2024
5. ผลการแข่งขันเพลย์ออฟยูโร 2024
คู่แข่งขัน | สกอร์ |
กลุ่ม A: โปแลนด์ vs เอสโตเนีย | 5-1 |
กลุ่ม A: เวลส์ vs ฟินแลนด์ | 4-1 |
กลุ่ม B: อิสราเอล vs ไอซ์แลนด์ | 1-4 |
กลุ่ม B: บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา vs ยูเครน | 1-2 |
กลุ่ม C: จอร์เจีย vs ลักเซมเบิร์ก | 2-0 |
กลุ่ม C: กรีซ vs คาซัคสถาน | 5-0 |
โปแลนด์, ยูเครน และจอร์เจีย ได้จับจองที่นั่งด้วยการเอาชนะในรอบเพลย์ออฟ
Games | Score |
ชิงชนะเลิศ กลุ่ม A: โปแลนด์ vs เวลส์ | 0-0 (5-4 จุดโทษ โปแลนด์) |
ชิงชนะเลิศ กลุ่ม B: ไอซ์แลนด์ vs ยูเครน | 1-2 |
ชิงชนะเลิศ กลุ่ม C: จอร์เจีย vs กรีซ | 0-0 (4-2 จุดโทษ จอร์เจีย) |
6. ยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศจะเริ่มเมื่อไหร่?
รอบชิงชนะเลิศ จะเริ่มตั้งแต่ 14 มิ.ย. – 14 ก.ค. 2567
รอบรองชนะเลิศรอบรอบเพลย์ออฟ จะมีขึ้นในวันที่ 21 มี.ค. 2567 โดยรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในอีก 5 วันต่อมา
7. ยูโร 2024 แข่งขันที่ไหน?
เป็นครั้งแรกที่เยอรมันจัดการแข่งขัน นับตั้งแต่การรวมประเทศอีกครั้ง เยอรมันตะวันตกเป็นเจ้าภาพในรอบชิงชนะเลิศปี 1988 (พ.ศ.2531) ขณะที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2006
รายชื่อสนามแข่งขันฟุตบอล 10 สนามที่จะมีการแข่งขัน
สนามกีฬา | เมือง | ความจุ |
นามกีฬาโอลิมปิก | เบอร์ลิน | 70,000 |
ไรน์ เอเนอร์กี สตาดิโอน | โคโลญจน์ | 47,000 |
ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค | ดอร์ทมุนด์ | 66,000 |
สนามกีฬาแมร์คัวร์ สเปียล | ดุสเซลดอร์ฟ | 47,000 |
วาลด์สตาดิโอน | แฟรงก์เฟิร์ต | 48,000 |
อารีน่า เอาฟ์ ชาลเก้ | เกลเซนเคียร์เชน | 50,000 |
โฟล์คสปาร์คสตาดิโอน | ฮัมบวร์ก | 50,000 |
เรดบูลอารีน่า | ไลป์ซิก | 42,000 |
อลิอันซ์ อารีน่า | มิวนิค | 67,000 |
เอ็มเอชอารีน่า | สตุ๊ตการ์ท | 54,000 |
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลทีมไหน ที่ Thscore คุณจะได้พบกับทุกอย่างที่คุณต้องการ ในศึกยูโร 2024 นี้ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวยูโร2024 และ ตารางบอล ในรูปแบบที่สนุกสนานและเข้าถึงได้ง่าย เข้ามาค้นหาประสบการณ์การติดตาม ผลบอลย้อนหลังเมื่อคืน ของการแข่งขัน ยูโร 2024 ที่ดีที่สุดเพียงคลิกเดียว ที่ Thscore ได้เลย!