ผลบอลพรีเมียร์ลีก เดอ บรอยน์ ซัดเบิ้ล พาแมนฯซิตี้ บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 4 ต่อ 2
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ที่ 32 คืนเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ เปิดเซลเฮิร์ท ปาร์ค สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “แมนซิตี้” ทีมหัวตารางที่ต้องการ 3 แต้มเพื่อลุ้นแชมป์
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือชาวออสเตรีย ของคริสตัล พาเลซ ใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่บุกไปแพ้ บอร์นมัธ 0-1 เมื่อกลางสัปดาห์ โดย ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่หายไป 7 เกม ฟิตกลับมาเป็นแค่สำรองเท่านั้น
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ เกมนี้ใส่ชื่อ เควิน เดอ บรอยน์ กับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กลับมาสตาร์ต หลังเกมถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-1 ถูกดร็อปไปนั่งสำรอง ด้าน ฟิล โฟเด้น ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมเดียวกัน ได้เพียงนั่งสำรองก่อนเท่านั้น ส่วน สเตฟาน ออร์เตก้า ยังเฝ้าเสาต่อไป โดยเอแดร์ซอน ยังไม่ฟิตพอเป็นตัวจริง
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 คืนวัน เสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 คริสตัล พาเลซ เปิดปราสาทเรือนแก้ว รับทีมเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการ 3 แต้มเท่านั้น!คริสตัล พาเลซ 2-4 แมนซิตี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 คืนวัน เสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 คริสตัล พาเลซ เปิดปราสาทเรือนแก้ว รับทีมเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการ 3 แต้มเท่านั้น!
คริสตัล พาเลซ 2-4 แมนซิตี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน – โจเอล วอร์ด, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา – ดาเนียล มูนญอซ, อดัม วอร์ตัน, วิล ฮิวจ์ส, ไทริค มิตเชลล์ – เอเบเรชี่ เอเซ่, จอร์แดน อายิว – ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า
แมนซิตี้ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า – ริโก้ ลูอิส, จอห์น สโตน, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – โรดรี้ เอร์นานเดซ – ออสก้าร์ บ็อบบ์ – เควิน ดอ บรอยน์, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, แจ็ค กรีลิช- เออร์ลิง ฮาแลนด์
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นได้ประตูนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ อดัม วอร์ตัน จ่ายให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า กดด้วยขวายิงผ่าน สเตฟาน ออร์เตก้า เข้าไป
หลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง แมนฯ ซิตี้ มาเร่งเกม และนาทีที่ 13 มาได้ประตูตีเสมอเป็นจังหวะที่ แจ็ค กรีลิช ฝากบอกมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนยิงสุดสวย ให้แชมป์เก่า ตีเสมอ 1-1
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้ถึง 78 % แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ขึ้นนำได้
นาทีที่ 37 จอร์แดน อายิว ยิงไปชนคาน คริสตัล พาเลซ ยังไม่ได้ประตูนำอีกครั้ง
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 1-1
กลับมาครึ่งหลังผ่านไปเพียง 2 นาที แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ โจเอล วอร์ด โหม่งไม่ดีมาเช้ามา ริโก้ ลูอิส ยิงไม่พลาด
นาทีที่ 54 ลูกทีมของ เป๊ป น่าจะได้ประตูที่ 3 จากจังหวะให้บอลของ เควิน เดอ บรอยน์ ให้บอลไปที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ แต่ยิงไปติดบล็อก โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น ที่ช่วยเจ้าบ้านเอาไว้ได้
จากนั้นนาที 66 แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 3-1 จาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่รับบอลจาก เควิน เด บรอยน์ และยิงเข้าไป VAR เช็กแล้วไม่เป็นลูกล้ำหน้า
นาทีที่ 70 แมนฯ ซิตี้ นำห่างเป็น 4-1 คราวนี้เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่มาทำประตูที่ 2 ให้ตัวเองในเกมนี้ หลังรับบอลมาจาก โรดรี้ ก่อนยิงผ่านมือ ดีน เฮนเดอร์สัน ไม่เหลือ
เกมผ่าน 80 นาที ซิตี้ เวลานี้มี 70 แต้มเท่าลิเวอร์พูล แต่ต้องการอีกประตูเพื่อจะให้ประตูได้-เสียไปเท่ากับ ทีม “หงส์แดง”
นาที 86 คริสตัล พาเลซ มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 จากการประสานงานของ 2 ตัวสำรองโดย เจฟฟีย์ ชลู๊ปป์ จ่ายให้ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ สังหารผ่าน สเตฟาน ออร์เตก้า เข้าไปเป็นประตูปิดท้าย
