เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ตัวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแสดงทัศนะที่เต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพและความเข้าใจต่อสถานการณ์ปัจจุบันของตนเองอย่างถ่องแท้ โดยเขายืนยันว่าเป้าหมายหลักในขณะนี้คือการทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการยกระดับฟอร์มการเล่นให้กับทัพ “ปีศาจแดง” ให้กลับมาอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ซึ่งเขามองว่านี่คือบันไดขั้นแรกและสำคัญที่สุดที่จะช่วยเปิดประตูสู่การกลับไปติดทีมชาติอังกฤษ (สิงโตคำราม) เพื่อลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย แม้ว่าเขาจะเคยเป็นลูกรักและนักเตะคนสำคัญของ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบันสมัยที่ทั้งคู่ร่วมงานกันที่เชลซี แต่เมาท์ก็ยอมรับตามตรงว่าในโลกของฟุตบอลอาชีพ เครดิตในอดีตไม่สามารถช่วยให้เขาติดทีมชาติได้ หากผลงานปัจจุบันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับทีมได้อย่างเป็นรูปธรรม ติดตาม ผลบอลได้ง่ายๆ ได้ที่ ผลบอลสด thscore
สารบัญ
Toggleเมสัน เมาท์ กับปรัชญาการทำงานที่เริ่มต้นจากความสำเร็จในระดับสโมสร

หัวใจสำคัญของการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้คือการที่เขาเน้นย้ำถึง “ลำดับความสำคัญ” ของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ โดยเขามองว่าสโมสรคือรากฐานที่กำหนดอนาคตในระดับนานาชาติ หากสโมสรไม่ประสบความสำเร็จ นักเตะก็ยากที่จะได้รับการยอมรับ
ผลงานส่วนตัวต้องมาพร้อมกับชัยชนะของทีม
เขากล่าวอย่างชัดเจนว่า หากเขาสามารถพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะและไต่อันดับขึ้นไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นในตารางพรีเมียร์ลีกได้ โอกาสที่จะถูกเรียกตัวกลับไปติดทีมชาติก็จะตามมาเองโดยอัตโนมัติ ความสำเร็จของทีมจะเป็นสปอร์ตไลท์ที่ส่องสว่างให้เห็นถึงศักยภาพของเขาอีกครั้ง
ความฝันในฟุตบอลโลกที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ
แม้การไปเตะเวิลด์คัพจะเป็นความฝันอันสูงสุด แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง โดยมองว่าความฝันนั้นต้องถูกสร้างขึ้นจากผลงานในสนามซ้อมและเกมการแข่งขันในทุกๆ สัปดาห์ การทำงานหนักที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด คือกุญแจดอกเดียวที่เขาจะใช้ไขไปสู่ตั๋วเครื่องบินไปลุยศึกที่สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา
เมาท์ และความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกุนซือคนใหม่ของอังกฤษ “โธมัส ทูเคิ่ล”

การแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาดำรงตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่านี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับมิดฟิลด์วัย 26 ปีรายนี้ เนื่องจากทั้งคู่มีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมร่วมกันมาในอดีต
ย้อนรอยความสำเร็จแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021
ภายใต้การคุมทีมของทูเคิ่ลที่เชลซี เขาคือกองกลางตัวหลักที่ลงสนามอย่างสม่ำเสมอและเป็นผู้ทำแอสซิสต์สำคัญในนัดชิงชนะเลิศที่พา “สิงห์บลูส์” เถลิงบัลลังก์ยุโรป ทูเคิ่ลรู้วิธีการดึงความสามารถสูงสุดของเขาออกมา และมีความเชื่อมั่นในระเบียบวินัยทางแท็กติกของเขาเป็นอย่างมาก
ความรู้ใจที่อาจเป็นดาบสองคม
แม้จะรู้ใจกันดี แต่เขาก็ยอมรับว่าการรู้จักทูเคิ่ลหมายถึงการที่เขารู้ดีว่ากุนซือชาวเยอรมันเป็นคนที่มีมาตรฐานสูงเพียงใด ทูเคิ่ลจะไม่เลือกนักเตะจากความพึงพอใจส่วนตัว แต่จะเลือกจากความพร้อมและสมรรถภาพในสนามเท่านั้น ทำให้เมาท์ต้องยิ่งทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อพิสูจน์ว่าเขาดีพอสำหรับระบบของทูเคิ่ลในปัจจุบัน
เมาท์ กับการเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่สูงลิบในแผงมิดฟิลด์สิงโตคำราม
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของเขาในตอนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของกุนซือ แต่คือ “คู่แข่ง” ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกของทีมชาติอังกฤษที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง
การเบียดแย่งตำแหน่งกับเหล่าซูเปอร์สตาร์รุ่นใหม่
เขาต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันจาก ฟิล โฟเด้น เจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม, โคล พาลเมอร์ ที่กำลังเป็นหัวใจสำคัญของเชลซี รวมถึง มอร์แกน โรเจอร์ส ดาวรุ่งพุ่งแรงจากแอสตัน วิลล่า นักเตะเหล่านี้มีสถิติการยิงประตูและแอสซิสต์ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เมาท์ต้องก้าวข้ามไปให้ได้หากต้องการกลับไปครองตำแหน่งตัวจริง
จุดเด่นที่แตกต่างในการช่วยทีม
สิ่งที่เขาจะใช้สู้กับนักเตะรุ่นน้องคือ ประสบการณ์และการเล่นเกมรับจากแดนหน้า (Pressing) ซึ่งเป็นจุดที่ทูเคิ่ลให้ความสำคัญ ความหลากหลายในการเล่นได้ทั้งกองกลางเบอร์ 8 และเบอร์ 10 รวมถึงระเบียบวินัยในการยืนตำแหน่ง คือสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะทำให้เขายังคงมีพื้นที่ในแผนการทำทีมชาติอังกฤษในอนาคต
เมาท์ และเป้าหมายการพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่
ในช่วงโปรแกรมบ็อกซิ่งเดย์และปีใหม่ 2026 เขาตั้งเป้าที่จะเป็นตัวเลือกแรกในแผงกองกลางของทีมปีศาจแดง เพื่อช่วยทีมเก็บแต้มสำคัญและกอบกู้สถานการณ์ของสโมสรให้ดียิ่งขึ้น
การยึดตำแหน่งตัวจริงภายใต้ระบบใหม่ของทีม
ความท้าทายในระดับสโมสรของเขาคือการรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์และปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นที่เข้มข้นขึ้น การได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เขาเรียกความมั่นใจและจังหวะของเกมกลับมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในช่วงที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนก่อนหน้านี้
การสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมทั้งประตูและแอสซิสต์
เพื่อให้เข้าตาสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติอังกฤษ เขาจำเป็นต้องเพิ่มสถิติส่วนตัวให้ดีขึ้น การมีส่วนร่วมกับประตูในฐานะตัวรุกคือสิ่งที่สื่อและแฟนบอลจะใช้ตัดสินเขา การทำผลงานได้ “เจ๋ง” ระดับสร้างปรากฏการณ์ตามที่เขากล่าวไว้ คือเป้าหมายสูงสุดที่จะทำให้เสียงเชียร์เรียกชื่อเขากลับสู่ทีมชาติอีกครั้ง
เมาท์ กับบทสรุปของความทะเยอทะยานสู่เวิลด์คัพ 2026
ท้ายที่สุดแล้ว เส้นทางสู่สหรัฐอเมริกาในปี 2026 ของเขายังคงเปิดกว้าง แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ “ปัจจุบัน” ที่เขากำลังสร้างขึ้นในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ความมุ่งมั่นในช่วงวัย 26 ปีที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีค
ด้วยอายุ 26 ปี เขาอยู่ในช่วงวัยที่นักฟุตบอลเริ่มมีทั้งประสบการณ์และความแข็งแกร่งทางร่างกายที่ลงตัวที่สุด การเริ่มต้นใหม่ภายใต้การนำของทูเคิ่ลในทีมชาติอาจจะเป็นโอกาสทองครั้งสุดท้ายที่จะพาสถาปนาตนเองเป็นนักเตะระดับโลกในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ตลาดนักเตะและฤดูกาล 2025-26 จุดเปลี่ยนสำคัญ
ครึ่งฤดูกาลหลังของปี 2025 และต่อเนื่องไปถึงปี 2026 จะเป็นช่วงเวลาตัดสินอนาคตของเขา หากเขาสามารถสลัดปัญหาบาดเจ็บและโชว์ฟอร์มได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ เราอาจได้เห็นกองกลางรายนี้กลับไปสวมเสื้อหมายเลขสำคัญและบัญชาการเกมรุกให้ทีมชาติอังกฤษอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ
สรุปข่าว
เมาท์ กองกลางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าโฟกัสหลักในขณะนี้คือการทำผลงานระดับสโมสรให้ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อหวังติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลก 2026 แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมชาติคนปัจจุบันจากสมัยอยู่เชลซี แต่เขาก็เข้าใจดีว่าต้องพิสูจน์ตนเองในสนามท่ามกลางการแข่งขันที่สูงกับนักเตะรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้สิทธิ์ติดทีมสิงโตคำรามอีกครั้งตามความฝัน
เมาท์ คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการติดทีมชาติและฟอร์มการเล่น
1. ทำไม เมาท์ ถึงคิดว่าฟอร์มกับแมนยูคือปัจจัยสำคัญที่สุด?
เพราะเขามองว่าการติดทีมชาติต้องเริ่มต้นจากผลงานที่สม่ำเสมอและโดดเด่นในระดับสโมสร หากเขาสามารถช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะและไต่อันดับในลีกได้ โอกาสในการกลับสู่ทีมชาติก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
2. ความสัมพันธ์ของเขากับ โธมัส ทูเคิ่ล มีส่วนช่วยในการติดทีมชาติหรือไม่?
มีความเกี่ยวข้องกันในแง่ที่ทูเคิ่ลรู้วิธีการเล่นและศักยภาพของเขาดีจากการร่วมงานกันที่เชลซี แต่เมาท์ยืนยันว่าเขาต้องพิสูจน์ตัวเองใหม่ทั้งหมด เนื่องจากทูเคิ่ลเน้นผลงานปัจจุบันเป็นหลัก
3. ใครคือคู่แข่งสำคัญของเขาในตำแหน่งกองกลางตัวรุกทีมชาติอังกฤษ?
ปัจจุบันทีมชาติอังกฤษมีตัวรุกพรสวรรค์สูงมากมาย เช่น ฟิล โฟเด้น, โคล พาลเมอร์ และ มอร์แกน โรเจอร์ส ซึ่งเมาท์ต้องแย่งชิงตำแหน่งกับนักเตะเหล่านี้ที่กำลังทำผลงานได้ดีในสโมสรของตนเอง
4. เขามีเป้าหมายอย่างไรสำหรับฟุตบอลโลก 2026?
เป้าหมายของเขาคือการทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ตนเองให้ได้เป็น 1 ในขุมกำลังของทีมชาติอังกฤษที่จะเดินทางไปเตะรอบสุดท้ายในปี 2026 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความฝันอันสูงสุดของเขา
5. สภาพร่างกายปัจจุบันของเขามีผลต่อการลงสนามมากน้อยแค่ไหน?
เขากำลังพยายามรักษาความฟิตและหวังที่จะลงสนามอย่างต่อเนื่องในช่วงโปรแกรมชุกปลายปี เพื่อเรียกฟอร์มเก่งและจังหวะของเกมกลับมาให้เร็วที่สุดเพื่อผลประโยชน์ของสโมสรและโอกาสในทีมชาติ
Guru Sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วนนอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ







