โยชัว คิมมิช กัปตัน ทีมชาติเยอรมัน ยอมรับแบบตรงไปตรงมาหลังจบเกมรอบรองชนะเลิศยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ว่า “อินทรีเหล็ก” ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่และสมควรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับ ทีมชาติโปรตุเกส ด้วยสกอร์ 1-2 พร้อมชี้ว่า หากทีมไม่สามารถรักษามาตรฐานและความพร้อมเต็มร้อย ก็ยากที่จะล้มทีมระดับหัวแถวของยุโรปได้ ติดตาม ซื้อขายนักเตะ ได้ที่ บ้านบอล

สารบัญ
Toggleครึ่งแรกแผ่ว ครึ่งหลังโดนสวนดับฝันชิง
ในเกมดังกล่าว เยอรมันดูมีความหวังในช่วงต้นครึ่งหลัง เมื่อคิมมิชจ่ายบอลให้ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ซัดประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ ทว่าหลังจากนั้นฟอร์มของทีมก็ตกลงอย่างชัดเจน ทำให้โปรตุเกสที่นำโดยกุนซือมือเก๋า และขุมกำลังแน่นทั้งแนวรุกและแนวรับ กลับมาได้ถึงสองประตูรวด พลิกสถานการณ์เข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
คิมมิชกล่าวหลังเกมว่า
“เราสมควรแพ้แล้ว เราเล่นไม่ดีพอในครึ่งแรก ไม่ว่ามีบอลหรือไม่มีบอลก็ตาม หลังนำ 1-0 ครึ่งหลังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
คำพูดนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาเรื้อรังของอินทรีเหล็กในช่วงหลัง ที่มักจะมีปัญหาเรื่องสมาธิและการคุมเกมในช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ก่อนเข้าสู่ศึกยูโร 2024 ที่จะจัดขึ้นในบ้านเกิดของพวกเขาเอง
คิมมิชลงสนามเกมที่ 100 – ฉลองด้วยแอสซิสต์ แต่เจ็บใจทีมพ่าย
นอกจากความผิดหวังของทีมแล้ว เกมนี้ยังมีความหมายพิเศษสำหรับ โยชัว คิมมิช เพราะถือเป็นการลงสนามนัดที่ 100 ในนามทีมชาติเยอรมัน นับตั้งแต่ประเดิมสนามเมื่อปี 2016 โดยในเกมนี้เขาสามารถทำแอสซิสต์ที่ 6 ในรายการเนชั่นส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งนับว่า มากที่สุดในบรรดานักเตะทั้งหมดของทัวร์นาเมนต์
แต่คิมมิชเองกลับไม่สนใจกับสถิติเหล่านั้นนัก เพราะความพ่ายแพ้ของทีมเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากกว่า
“วันนี้เป็นหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุดของเรา โดยพิจารณาจากผลงานของเราล้วนๆ”
“เราไม่มีความเฉียบคม และไม่มีความต่อเนื่องเลยหลังจากขึ้นนำ มันเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ก่อนที่เราจะเสียหายไปมากกว่านี้ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่กำลังจะมาถึง”

ความพ่ายแพ้ที่เป็นบทเรียนก่อนศึกยูโร
เยอรมันมีเป้าหมายใหญ่ในกลางปีหน้านี้กับการเป็นเจ้าภาพยูโร 2024 และการตกรอบรองฯ ในรายการเนชั่นส์ ลีก อาจถูกมองว่าเป็นการซ้อมใหญ่ที่ล้มเหลว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็นับเป็นบทเรียนสำคัญให้กับทั้งผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชในการปรับปรุงแผนการเล่น แท็คติก และความพร้อมทางจิตใจ
ทั้งนี้ คิมมิชถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีความเป็นผู้นำสูง และมักออกมาพูดตรงไปตรงมาเกี่ยวกับผลงานของทีม เขาถูกวางตัวให้เป็นหัวใจในแดนกลางของเยอรมันร่วมกับนักเตะดาวรุ่งอย่าง จามาล มูเซียล่า และ โฟลเรียน เวียร์ทซ์ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นความหวังของชาติในทัวร์นาเมนต์ต่อไป
โปรตุเกส – คู่แข่งที่ไม่พลาด
ในฝั่งของโปรตุเกส พวกเขาแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทีมทั้งในแง่ความยืดหยุ่นแท็คติก และศักยภาพของผู้เล่นดาวรุ่งที่ขึ้นมาทดแทนรุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การกลับมาคว้าชัยจากการตามหลังในเกมระดับสูงเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ทีมชั้นนำในยุโรปต้องทำให้ได้ และโปรตุเกสก็ทำได้อย่างสง่างาม
ชัยชนะในเกมนี้ทำให้โปรตุเกสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำคัญของยูโร 2024 เช่นกัน
สรุปบทเรียนสำคัญของอินทรีเหล็ก
- เยอรมันยังมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอของฟอร์มในเกมระดับสูง
- ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ควรถูกใช้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาแท็คติกก่อนยูโร 2024
- โยชัว คิมมิช กัปตัน ยังคงเป็นผู้นำตัวหลักในแดนกลาง และผลงานส่วนตัวโดดเด่นแม้ทีมจะแพ้
- ทีมยังต้องยกระดับทั้งในแง่เกมรุก-รับ หากหวังจะคว้าแชมป์ในปีหน้า
Guru sports คือ แหล่งรวบรวมข้อมูลสำหรับคนที่มีใจรักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอล ที่นี่คุณจะพบกับข่าวสาร พรีวิว และรีวิวอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากกูรูนักวิเคราะห์ชั้นนำ ทั้งผลบอลล่าสุด ข้อมูลลีกดังระดับโลก อาทิ พรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา และลาลีกา รับรองว่าจะทำให้คุณได้รู้ทันสถานการณ์ฟุตบอล และความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ยังมีโซเชียล ให้ติดตามข่าว อย่างรวดเร็ว บน Facebook ,Youtube และอื่นๆ